ผู้โดยสารป่วน! “ทอท.-ปาร์คกิ้ง” เปิดฉากชิงพื้นที่อาคารจอดรถสุวรรณภูมิ ทอท.ปรับจราจรเปลี่ยนทางเข้าใหม่เลี่ยงปะทะ ยึดคำสั่งศาลปกครองกลางขอพื้นที่คืน ด้าน”ปาร์คกิ้งฯ”งัดมาตรา 70 ชี้ทอท.ละเมิดอำนาจศาล“ผอ.สุวรรณภูมิ”ยอมรับรถติดขัดบ้างช่วยรอยต่อแต่ไม่นาน โดยรวมสถานการณ์ปกติ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 เมษายน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการปรับเปลี่ยนช่องทางขาเข้าอาคารและลานจอดรถใหม่โดยปรับทางเข้าจากจุดเดิมที่ทางเข้าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.และโรงแรมโนโวเทล ย้ายมาเข้าทางด้านหลังของอาคารจอดรถ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอาคารผู้โดยสารแทนพร้อมกับปิดทางเข้าชั้น 5 ซึ่งเชื่อมต่อจากทางยกระดับเป็นการชั่วคราว เนื่องจากช่องทางเข้าอาคารจอดรถเดิมบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเม้นท์ จำกัด ยังปฎิบัติหน้าที่อยู่ ทำให้เกิดความสับสนกับผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อรับ-ส่งญาติ ค่อนข้างมาก โดยมีผู้โดยสารบางคนได้โพสต์ข้อมูลผ่านทางเฟสบุ้ค ว่า มีการปิดทางเข้าอาคารจอดรถที่เชื่อมจากทางยกระดับโด ยให้เลี้ยวขวาลงไปเข้าด้านหน้าอาคารผู้โดยสารขั้น 1 เท่านั้น หากต้องการรับ-ส่งญาติ ให้ใช้บริการรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์แทนจะสะดวกกว่า
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 2 กองร้อยเข้าไปดูแลสถานการณ์บริเวณลานจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามที่ทอท.ประสานขอกำลังเข้ามาดูแลความเรียบร้อย โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือวุ่นวายใดๆ
ทั้งนี้ ก่อนปรับเปลี่ยนทางเข้าอาคารจอดรถใหม่ ทอท.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เจรจากับปาร์คกิ้ง โดยส่งจดหมายเพื่อขอให้ปาร์คกิ้งมอบพื้นที่ ขาเข้าอาคารผู้โดยสารแก่ทอท.พร้อมคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งทางปาร์คกิ้งได้ชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด ทางกฎหมายคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด พื้นที่ขาเข้าอาคารจอดรถจึงยังอยู่ในความคุ้มครอง และปาร์คกิ้งฯยังคงมีสิทธิ์ปฎิบัติหน้าที่ต่อไป พร้อมกับระบุว่า การที่ทอท.เข้ามาดำเนินการเปิดเส้นทางเข้าอาคารจอดรถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใหม่ ถือเป็นการไม่ให้ปาร์คกิ้งฯปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งคุ้มครอง เป็นการกระทำที่ละเมิดอำนาจศาล และผิดพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 70 อย่างชัดเจน
โดยมาตรา 70 ระบุว่า คำพิพากษาศาลปกครองให้ผูกพันคู่กรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม คำบังคับนับแต่วันที่กำหนดในคำพิพากษาจนถึงวันที่คำพิพากษานั้นถูก เปลี่ยนแปลงแก้ไขกลับหรืองดเสีย ในกรณีที่เป็นคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้รอการปฏิบัติตามคำบังคับไว้จนกว่าจะพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์ หรือในกรณีที่มีการอุทธรณ์ ให้รอการบังคับคดีไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ด้านนางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองระหว่าง ทอท. กับบริษัท ปาร์คกิ้ง ฯ นั้น ทำให้ ทอท.จำเป็นต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตู้จ่ายบัตรจอดรถตรงช่องทางขาเข้าของลานจอดรถและอาคารจอดรถ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แทนบริษัท ปาร์คกิ้งฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2556 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการอาคารและลานจอดรถเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทอท.จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางเข้าอาคารและลานจอดรถใหม่ โดยขอให้ผู้ใช้บริการใช้ทางเข้าจอดรถยนต์ได้ที่บริเวณถนนด้านหน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 เท่านั้น สำหรับช่องทางออกของอาคารและลานจอดรถยังคงใช้ได้ตามปกติ ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่จราจรคอยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งมีป้ายบอกทางเป็นระยะ และต้องของขออภัยในความไม่สะดวกกับผู้ใช้บริการด้วย
ซึ่งทอท.จำเป็นต้องปรับเส้นทางเข้าอาคารจอดรถ สนามบินสุวรรณภูมิใหม่ เนื่องจาก ปาร์คกิ้งฯไม่ยอมออกจากพื้นที่ตามกฎหมาย เป็นการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนกระทบไปถึงผู้ใช้บริการ โดยยอมรับว่า ในช่วงรอยต่อที่จะปรับเส้นทางเข้าอาคารจอดรถใหม่นั้นมีปัญหารถติดขัดบ้าง แต่เป็นช่วงเวลาไม่นานประมาณ 10 กว่านาที หลังจากนั้นสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยทอท.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และติดตั้งป้ายแจ้งตั้งแต่ทางยกระดับก่อนเข้าสนามบินเพื่อไม่ให้ผู้ใช้บริการเกิดความสับสน
“ปัญหาที่จอดรถสุวรรณภูมิซึ่งเป็นข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ระหว่างทอท.กับปาร์คกิ้งมีมานานแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ จึงนำบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นมาปรับใช้เพื่อให้กระทบต่อผู้ใช้บริการน้อยที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนของทอท.ได้จัดเตรียมตู้จ่ายบัตร และระบบคอมพิวเตอร์ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วดังนั้นในวันนี้จึงเข้าปฏิบัติงานได้ทันที
และคาดว่าจะใช้เส้นทางเข้าอาคารจอดรถที่ปรับใหม่ไปให้นานที่สุดหรือจนกว่ามีคำสั่งทางกฎหมายอื่นๆ จะไม่ปรับไป ปรับมา เพราะจะทำให้ผู้ใช้บริการสับสนได้”ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกล่าว