แมงเม้าท์เล่าอินไซด์มาแล้วจร้าาาาาา.... หลังจากหยุดพัก "สงกรานต์" กลับมารู้สึกหุ้นไทยจะสดใสไฉไล ตรงข้ามกับทองที่หมองหม่นเสียนี่กระไร แว่วว่า "โรงรับจำนำ" ที่ตุนทองไว้เยอะขณะนี้ กำลัง "จำเกอ" ... "เจอกรรม" ดันรับทอง 22000 บาทไว้เยอะ เอาเป็นว่า ให้เป็นอุทาหรณ์ สินทรัพย์ มันมีขึ้น ก็ต้องมีลง การรู้พื้นฐาน รู้จังหวะ คือ อาวุธสำคัญที่จะช่วยให้ "ใจนิ่ง" ได้
ใครที่ชอบเล่นทอง...ตอนนี้ให้รู้จักคำว่าขาลงด้วยนะ ตราบใดที่ยังกลับไปยืนเหนือ 1520 เหรียญต่อทรอยออนซ์ไม่ได้ ก็ยังไม่ใช่ว่าจะกลับมาของจริง ตอนนี้เวลาเล่นเค้าเล่น เพื่อเอา "รีบาวด์" และอย่าลืมส่อง 1350 เหรียญต่อทรอยออนซ์ไว้ด้วย ถ้าหล่นต้องระวัง และ 1321 เหรียญต่อทรอยออนซ์คือ จุดต่ำสุด ในช่วงที่ผ่านมาห้ามหลุดเด็ดขาด
จริงอยู่ว่าถือทองไม่มีวันเจ๊ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขึ้นได้รวดเร็วท่ามกลางสภาวะที่เริ่มกลับมาดีของยุโรป สหรัฐ จนถึงขั้นมีข่าวสหรัฐจะยุติ QE ปีนี้ ทำให้แมงเม้าท์นึกไปถึงปี 2523 ที่ทองโลกถูกลากขึ้นไป 700 เหรียญ ก่อนที่จะร่วงเหลือประมาณ 400 เหรียญ ในปี 2524-2525 ขณะที่ทองไทยตอนนั้นขึ้นไปราว 6000 บาทต่อบาททองคำ ก่อนที่จะลงมาเหลือประมาณ 4000 บาทต้นๆ ในปี 2524-2525
ฉะนั้นที่กองทุนต่างๆ ขายเพราะเขามองแล้วมันอาจจะไม่คุ้มค่าที่จะถือ สู้ไปถือพันธบัตรดีกว่ายังมีดอกเบี้ย และอย่าลืมว่า สินทรัพย์ในโลกนี้บางครั้งก็ถูกเทขายจนต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน ดังนั้่นคนถือทองต้องรู้จักรอ และแอบแช่งให้เศรษฐกิจโลกพัง ถ้าไม่อยากแช่ง ก็รอจังหวะรีบาวน์ออกมาถือสินทรัพย์อื่นดีกว่า
มาที่หุ้นกันบ้าง ถึงตอนนี้ใครหลายคนเริ่มมั่นใจแล้วว่าหุ้นไทยจะถึงเวลากลับมา เพราะไม่หลุด 1460 จุด ถึง 2 ครั้ง การที่ปิดเมื่อวันศุกร์ยืนเหนือ 1540 จุดได้นั้น ก็ทำให้ ใครหลายคนเริ่มมีความหวังดีอีกแล้ว เส้นเทคนิคต่างๆ เริ่มกลับมาดูดี ด่านต่อไปลุ้นว่าจะผ่าน 1560 จุดหรือไม่ ถ้าผ่านด้วยวอลุ่มสูงก็ยิ้ม แต่ถ้าไม่ผ่านก็ระวังตัวตามเดิม
ด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมอง "หุ้นไทย" สัปดาห์หน้า มีแนวโน้มปรับขึ้น ต่อเนื่องจากสัปดาห์นี้ โดย "คุณจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า แรงหนุนมาจากเรื่องผลประกอบการ ดังนั้นแรงซื้อจะเป็นลักษณะรายตัว ทำให้การแกว่งตัวขึ้นของตลาดจะเป็นแบบ sideways up ให้แนวรับ ที่ 1,530 และ 1,520 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,560 และ 1,565 จุด
"คุณเกียรติก้อง เดโช" นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) เชื่อเช่นกันว่า หุ้นไทยสัปดาห์หน้ายังคงปรับตัวขึ้น แถมไม่กังวลถึงสภาพตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลง เพราะเห็นว่าเป็นผลจากการประกาศ งบการเงินของบริษัทในสหรัฐเอง และมองว่าสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะ มีการฟื้นตัว ส่วนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ เชื่อว่า จะเริ่มลดลงหลังจากที่มี การขายปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมาไปแล้ว และให้จับตาหุ้นในกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท
ส่วน "คุณณาศิส ประเสริฐสกุล" รองผู้อำนวยการฝ่าย กลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า จากสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าช่วง 1 สัปดาห์ หลังเทศกาลสงกรานต์ ตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้น ทำให้คาดว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า หุ้นไทยก็มีทิศทางที่จะปรับตัวขึ้นเช่นหลายปีที่ผ่านมา และดีไม่ดีหุ้นไทยอาจจะดูดีกว่าเพื่อนบ้าน หลังจากที่เห็นว่าโบรกเกอร์ต่างชาติ มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิ ต่อหุ้น ของบจ.ในตลาดหุ้นไทยปีนี้ เป็นเติบโต 25.6% ส่งผลให้ค่า พี/อี ของ ตลาดหุ้นไทยปีนี้ จะอยู่ที่ราว 11.8 เท่า ซึ่งถือว่าระดับราคาหุ้นยังไม่แพง
ถึงเวลาเม้าท์ บจ. อย่างที่บอกไปในครั้งก่อนๆ ให้จับตา BLAND ที่ต้องการจะให้คนแปลง BLAND-W2 เป็นหุ้นแม่ ในราคา 1.90 บาท ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ช่วงนี้จะมีการดัน BLAND เพื่อจูงใจ ... และก็จัดหนักถึงขั้นแจก BLAND-W4 ให้ผู้ถือหุ้นซะอย่างนั้น อืมม์ "เจ้าของหุ้น" ลืมบอกไป ผู้ถือหุ้นสามัญอัตราส่วน 2.59 หุ้นเดิม จะได้ 1 warrant ซึ่ง BLAND-W4 จะมีอัตราการใช้สิทธิที่1:1 และราคาใช้สิทธิการแปลง 2 บาท/หุ้น ระยะเวลาการใช้สิทธิ 5 ปี จะขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 พ.ค.นี้ ... งานนี้จูงใจคนแปลง BLAND-W2 สุดๆ แถมจะมีข่าวดีเกี่ยวกับผลประกอบการ และการตั้งกองทุน IMPACT .... ขยันสร้างข่าวดีช่วงนี้จริงๆ แต่ "อย่าเผลอ" ถ้าคิดจะเล่นกับเกม ก็ต้องระวัง
ขอแสดงความยินดีกับอีกก้าวของ TRC ที่เลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ SET หลังจากโดดเด่นใน MAI มาตลอด ในวันพุธนี้ ใครซื้อดักไว้ก็ดูวอลุ่มด้วยนะจ๊ะ ว่ามาจริงหรือไม่
ใครที่ชอบเล่นทอง...ตอนนี้ให้รู้จักคำว่าขาลงด้วยนะ ตราบใดที่ยังกลับไปยืนเหนือ 1520 เหรียญต่อทรอยออนซ์ไม่ได้ ก็ยังไม่ใช่ว่าจะกลับมาของจริง ตอนนี้เวลาเล่นเค้าเล่น เพื่อเอา "รีบาวด์" และอย่าลืมส่อง 1350 เหรียญต่อทรอยออนซ์ไว้ด้วย ถ้าหล่นต้องระวัง และ 1321 เหรียญต่อทรอยออนซ์คือ จุดต่ำสุด ในช่วงที่ผ่านมาห้ามหลุดเด็ดขาด
จริงอยู่ว่าถือทองไม่มีวันเจ๊ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขึ้นได้รวดเร็วท่ามกลางสภาวะที่เริ่มกลับมาดีของยุโรป สหรัฐ จนถึงขั้นมีข่าวสหรัฐจะยุติ QE ปีนี้ ทำให้แมงเม้าท์นึกไปถึงปี 2523 ที่ทองโลกถูกลากขึ้นไป 700 เหรียญ ก่อนที่จะร่วงเหลือประมาณ 400 เหรียญ ในปี 2524-2525 ขณะที่ทองไทยตอนนั้นขึ้นไปราว 6000 บาทต่อบาททองคำ ก่อนที่จะลงมาเหลือประมาณ 4000 บาทต้นๆ ในปี 2524-2525
ฉะนั้นที่กองทุนต่างๆ ขายเพราะเขามองแล้วมันอาจจะไม่คุ้มค่าที่จะถือ สู้ไปถือพันธบัตรดีกว่ายังมีดอกเบี้ย และอย่าลืมว่า สินทรัพย์ในโลกนี้บางครั้งก็ถูกเทขายจนต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของมัน ดังนั้่นคนถือทองต้องรู้จักรอ และแอบแช่งให้เศรษฐกิจโลกพัง ถ้าไม่อยากแช่ง ก็รอจังหวะรีบาวน์ออกมาถือสินทรัพย์อื่นดีกว่า
มาที่หุ้นกันบ้าง ถึงตอนนี้ใครหลายคนเริ่มมั่นใจแล้วว่าหุ้นไทยจะถึงเวลากลับมา เพราะไม่หลุด 1460 จุด ถึง 2 ครั้ง การที่ปิดเมื่อวันศุกร์ยืนเหนือ 1540 จุดได้นั้น ก็ทำให้ ใครหลายคนเริ่มมีความหวังดีอีกแล้ว เส้นเทคนิคต่างๆ เริ่มกลับมาดูดี ด่านต่อไปลุ้นว่าจะผ่าน 1560 จุดหรือไม่ ถ้าผ่านด้วยวอลุ่มสูงก็ยิ้ม แต่ถ้าไม่ผ่านก็ระวังตัวตามเดิม
ด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมอง "หุ้นไทย" สัปดาห์หน้า มีแนวโน้มปรับขึ้น ต่อเนื่องจากสัปดาห์นี้ โดย "คุณจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า แรงหนุนมาจากเรื่องผลประกอบการ ดังนั้นแรงซื้อจะเป็นลักษณะรายตัว ทำให้การแกว่งตัวขึ้นของตลาดจะเป็นแบบ sideways up ให้แนวรับ ที่ 1,530 และ 1,520 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,560 และ 1,565 จุด
"คุณเกียรติก้อง เดโช" นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) เชื่อเช่นกันว่า หุ้นไทยสัปดาห์หน้ายังคงปรับตัวขึ้น แถมไม่กังวลถึงสภาพตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลง เพราะเห็นว่าเป็นผลจากการประกาศ งบการเงินของบริษัทในสหรัฐเอง และมองว่าสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะ มีการฟื้นตัว ส่วนแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ เชื่อว่า จะเริ่มลดลงหลังจากที่มี การขายปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมาไปแล้ว และให้จับตาหุ้นในกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท
ส่วน "คุณณาศิส ประเสริฐสกุล" รองผู้อำนวยการฝ่าย กลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า จากสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าช่วง 1 สัปดาห์ หลังเทศกาลสงกรานต์ ตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้น ทำให้คาดว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า หุ้นไทยก็มีทิศทางที่จะปรับตัวขึ้นเช่นหลายปีที่ผ่านมา และดีไม่ดีหุ้นไทยอาจจะดูดีกว่าเพื่อนบ้าน หลังจากที่เห็นว่าโบรกเกอร์ต่างชาติ มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตกำไรสุทธิ ต่อหุ้น ของบจ.ในตลาดหุ้นไทยปีนี้ เป็นเติบโต 25.6% ส่งผลให้ค่า พี/อี ของ ตลาดหุ้นไทยปีนี้ จะอยู่ที่ราว 11.8 เท่า ซึ่งถือว่าระดับราคาหุ้นยังไม่แพง
ถึงเวลาเม้าท์ บจ. อย่างที่บอกไปในครั้งก่อนๆ ให้จับตา BLAND ที่ต้องการจะให้คนแปลง BLAND-W2 เป็นหุ้นแม่ ในราคา 1.90 บาท ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ช่วงนี้จะมีการดัน BLAND เพื่อจูงใจ ... และก็จัดหนักถึงขั้นแจก BLAND-W4 ให้ผู้ถือหุ้นซะอย่างนั้น อืมม์ "เจ้าของหุ้น" ลืมบอกไป ผู้ถือหุ้นสามัญอัตราส่วน 2.59 หุ้นเดิม จะได้ 1 warrant ซึ่ง BLAND-W4 จะมีอัตราการใช้สิทธิที่1:1 และราคาใช้สิทธิการแปลง 2 บาท/หุ้น ระยะเวลาการใช้สิทธิ 5 ปี จะขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 พ.ค.นี้ ... งานนี้จูงใจคนแปลง BLAND-W2 สุดๆ แถมจะมีข่าวดีเกี่ยวกับผลประกอบการ และการตั้งกองทุน IMPACT .... ขยันสร้างข่าวดีช่วงนี้จริงๆ แต่ "อย่าเผลอ" ถ้าคิดจะเล่นกับเกม ก็ต้องระวัง
ขอแสดงความยินดีกับอีกก้าวของ TRC ที่เลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ SET หลังจากโดดเด่นใน MAI มาตลอด ในวันพุธนี้ ใครซื้อดักไว้ก็ดูวอลุ่มด้วยนะจ๊ะ ว่ามาจริงหรือไม่
