xs
xsm
sm
md
lg

“เพ้ง” สั่ง ปตท.ลดบทบาทผูกขาดตลาดน้ำมัน-ก๊าซฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พงษ์ศักดิ์” สั่ง ปตท.พิจารณาแผนธุรกิจลดการครองตลาดน้ำมันและก๊าซฯ หลังถูกโจมตีว่าผูกขาดตลาด แต่ไม่ยอมเปิดเผยแนวทาง ยันที่ผ่านมา กม.ก็เปิดช่องให้แข่งขันอยู่แล้ว ขณะที่กระทรวงพลังงานทำแผ่นพับแจกหวังชี้แจง 4 ประเด็นพลังงานหลังโดนโจมตีหนักผ่านโลกสังคมออนไลน์


นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ บมจ.ปตท.ไปพิจารณาแผนธุรกิจที่จะลดสัดส่วนการครองตลาดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลงมาว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร เนื่องจากขณะนี้ ปตท.มีการถูกวิพากวิจารณ์ว่าเป็นธุรกิจผูกขาดตลาดดังกล่าวโดยเบื้องต้นมีแผนระดับหนึ่งแล้วแต่ยังไม่สามารถจะเปิดเผยได้

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าตลาดน้ำมันและก๊าซฯ เองก็มีการเปิดให้มีการแข่งขันอยู่แล้ว โดยส่วนของตลาดค้าปลีกน้ำมันนั้น ปตท.ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงเนื่องจากได้เข้าไปซื้อกิจการปั๊มน้ำมันของเจ็ทจึงทำให้ส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันขยับเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ธุรกิจก๊าซฯ เองก็เปิดให้แข่งขันโดยเฉพาะท่อก๊าซธรรมชาติแต่ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่สูงทำให้เอกชนอื่นๆ ไม่กล้าลงทุน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลด้านพลังงานที่คลาดเคลื่อนโดยเฉพาะผ่านสังคมออนไลน์ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้จัดทำแผ่นพับที่จะแจกให้กับประชาชนเพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงโดยจะมีการชี้แจงใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. ไทยไม่ได้ร่ำรวยพลังงานตามที่เขาบอก เพราะไทยมีสำรองน้ำมันที่ขณะนี้ผลิตได้ 1.4 แสนบาร์เรลต่อวันจะใช้ได้อีก 8 ปีเท่านั้นเทียบกับประเทศที่ร่ำรวยพลังงานจะมีสำรอง 75-250 ปี

2. ไทยไม่ได้ผลิตน้ำมันดิบจำนวนมหาศาล เพราะไทยผลิตน้ำมันดิบรวมคอนเดนเสทได้เพียงวันละ 240,000 บาร์เรลเท่านั้น หรือผลิตน้ำมันดิบได้ 15% ขณะที่เหลือ 85% ต้องนำเข้า 3. ไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ เพราะไทยผลิตได้ 1.35-1.5 แสนบาร์เรลต่อวันแต่มีความต้องการใช้ 9.3 แสน-1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศเฉลี่ย 8-8.6 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่วนการส่งออกน้ำมันดิบมีเพียงวันละ 4 หมื่นบาร์เรลต่อวัน

4. ประเด็นราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในไทยเมื่อเทียบกับราคาขายปลีกกับต่างประเทศ โดยปรับตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยนและหน่วยปริมาณน้ำมันเป็นบาทต่อลิตรแล้วพบว่าราคาขายปลีกน้ำมันของไทยต่ำกว่าหลายประเทศ เช่น กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมถึงสหภาพยุโรป

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวถึงสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในช่วงที่ประเทศพม่าหยุดซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซระหว่าง 5-14 เม.ย. 56 ว่า ทุกฝ่ายสามารถดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีทำให้ปริมาณสำรองไฟฟ้ามีเพียงพอ ซึ่งการที่รัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดพลังงานก็เพื่อให้แน่ใจว่าระหว่างที่เมียนมาร์หยุดจ่ายก๊าซฯ จะไม่เกิดปัญหาไฟตกหรือดับ โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย.เป็นช่วงที่สำรองต่ำมากหากไม่ดำเนินการก็มีความเสี่ยงสูงต่อระบบความมั่นคงไฟฟ้า

กำลังโหลดความคิดเห็น