ส.อ.ท.เผยงบ 2.2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลยังไม่ตอบโจทย์การเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านที่ชัดเจน แนะต้องมีการเปิดด่านถาวรให้มาก แก้ระบบจำกัดโควตาใบอนุญาตขนส่ง ชัดเจนนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษฯลฯ “ชัชชาติ” รับคมนาคมภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นอดีตไม่ดีพร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ ให้ประชาชนแยกกลัวการโกงออกมาเพื่อให้เดินหน้าแล้วตรวจสอบจะดีกว่า
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลวางยุทธศาตร์ารพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทว่า จากการรับฟังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “งบ 2 ล้านล้านบาท ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนและภูมิภาค” ในการประชุมใหญ่สามัญสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2556 ว่า ถือเป็นโครงการที่ดีแต่มุ่งเน้นภายในประเทศเป็นหลักซึ่งยังไม่ตอบโจทย์การเชื่อมโยงกับระเทศเพื่อนบ้านได้ชัดเจนนักถ้าหากเป็นเช่นนี้จะไม่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีแต่อย่างใด
ทั้งนี้รัฐจะต้องเปิดด่านถาวรให้มากกว่าเดิม. เพื่อย่นระยะทาง และลดความแออัด เช่น. ด่านอรัญประเทศที่ควรเพิ่มอีก. ต้องเพิ่มการออกใบอนุญาตขนส่งระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านให้มากกว่าเดิม โดยหากมีการกำหนดโควตาก็ขอให้เพิ่มโควตา. นอกจากนี้สถาบันการเงินจะต้องตอบสนองความต้องการด้านสินเชื่อของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนยังต่างประเทศมากขึ้นและ เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจะต้องดูว่าจะเป็นฝั่งไทยหรือฝั่งเพื่อนบ้านเพราะหากจะเน้นแรงงานเพื่อนบ้านและขยายตลาดก็ควรจะเป็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท.กล่าวว่า โครงการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาทจะทำให้ไทยมีระบบการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวที่ชัดเจนซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้อย่างมากเพราะการลงทุนผ่านงบประมาณประจำปีนั้นมักจะไม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องวางกติกาในการดำเนินงานให้โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เช่น ราคากลาง และคุณภาพของงานที่ออกมาหากควบคุมได้ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาใดๆ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “งบ 2 ล้านล้านบาท ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนและภูมิภาค” ว่า มั่นใจว่าการเสนอร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 19 มี.ค.จะไม่มีปัญหา เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง ที่พิจารณาความเหมาะสม รอบคอบมาแล้ว เพียงแต่อาจจะขอรับฟังความเห็นของรัฐมนตรี ต่อการกู้เงินดังกล่าว ก่อนเสนอเข้าสู่กระบวนการสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
“ไม่อยากให้เรากลัวการทุจริตจนไม่กล้าที่จะทำอะไรให้ประเทศเดินหน้า โครงการนี้รัฐบาลพร้อมจะเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบได้ ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมอาจจะมีภาพลักษณ์ไม่ดีนักแต่จากนี้ทุกอย่างจะต้องดูแลเราจะดูเรื่องราคากลาง และคุณภาพของงานให้เข้มงวด“นายชัชชาติกล่าว
