เครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จับคมนาคมเซ็นสัญญาคุณธรรมใน 30 วัน นำร่องโครงการประมูล 2 ล้านล้าน “ประมนต์” ชี้หนักใจโครงการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านมากกว่า เหตุข้อมูลไม่เปิดเผยทำให้ตรวจสอบไม่ได้ เตรียมร่วมมือ กกร.เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องแจง แฉขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐถูกร้องเรียนเรียกสินบนมากที่สุด
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 14 มีนาคมว่า ที่ประชุมได้ตกลงว่าจะเร่งลงนามในข้อตกลงคุณธรรมร่วมกันเพื่อความโปร่งใสในหน่วยงานภาครัฐภายใน 30 วัน โดยจะนำร่องในโครงการลงทุน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับที่ผ่านมาการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงคมนาคมถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความไม่โปร่งใสมาก โดยเอกชนที่จะเข้าร่วมจะประมูลจะต้องร่วมเซ็นสัญญา เชื่อว่าการมีเอกชนหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมสังเกตการณ์เพิ่มเติมจากเดิมที่การประมูลจะมีเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมุมมองที่ทำให้มีความโปร่งใสมากขึ้น
“เชื่อว่าคุณธรรมสูงกว่าข้อกฎหมายหรือระเบียบ เพราะทำให้ผู้เกี่ยวข้องมีสำนึกมากขึ้น ซึ่งในส่วนของโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ประชาชนไม่กังวลเรื่องเนื้อหาโครงการ แต่ห่วงเรื่องความโปร่งใส ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะทำเรื่องสัญญาคุณธรรมเป็นกระทรวงแรกเพราะมีการลงทุนมาก และที่ผ่านมาก็มีปัญหาความไม่โปร่งใสมากด้วย” นายชัชชาติกล่าว
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้สัญญาคุณธรรมจะไม่ใช่กฎหมายและไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าจะไม่มีการทุจริต 100% แต่จะมีกระบวนการตรวจสอบที่ทำให้การทุจริตยากขึ้น โดยภาคเอกชนเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ดีและอยากมีส่วนร่วม ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม ยังมีประเด็นความไม่ชัดเจนของโครวการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลที่ชัดเจนโครงการได้รวมถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับและผลทางเศรษฐกิจ โดยได้เตรียมจัดการระดมความคิดเห็นร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งจะเชิญภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนเข้ามาที่องค์กรจำนวนมากกรณีที่เอกชนถูกเจ้าหน้าที่รัฐเรียกร้องสินบนในการออกใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งมีทุกกระทรวง โดยหากมีการตรวจพบการกระทำผิดจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีอำนาจลงโทษตามกฎหมาย เช่น โครงการจำนำข้าว เป็นต้น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 14 มีนาคมว่า ที่ประชุมได้ตกลงว่าจะเร่งลงนามในข้อตกลงคุณธรรมร่วมกันเพื่อความโปร่งใสในหน่วยงานภาครัฐภายใน 30 วัน โดยจะนำร่องในโครงการลงทุน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับที่ผ่านมาการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงคมนาคมถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความไม่โปร่งใสมาก โดยเอกชนที่จะเข้าร่วมจะประมูลจะต้องร่วมเซ็นสัญญา เชื่อว่าการมีเอกชนหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมสังเกตการณ์เพิ่มเติมจากเดิมที่การประมูลจะมีเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมุมมองที่ทำให้มีความโปร่งใสมากขึ้น
“เชื่อว่าคุณธรรมสูงกว่าข้อกฎหมายหรือระเบียบ เพราะทำให้ผู้เกี่ยวข้องมีสำนึกมากขึ้น ซึ่งในส่วนของโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ประชาชนไม่กังวลเรื่องเนื้อหาโครงการ แต่ห่วงเรื่องความโปร่งใส ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะทำเรื่องสัญญาคุณธรรมเป็นกระทรวงแรกเพราะมีการลงทุนมาก และที่ผ่านมาก็มีปัญหาความไม่โปร่งใสมากด้วย” นายชัชชาติกล่าว
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้สัญญาคุณธรรมจะไม่ใช่กฎหมายและไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าจะไม่มีการทุจริต 100% แต่จะมีกระบวนการตรวจสอบที่ทำให้การทุจริตยากขึ้น โดยภาคเอกชนเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ดีและอยากมีส่วนร่วม ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม ยังมีประเด็นความไม่ชัดเจนของโครวการป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลที่ชัดเจนโครงการได้รวมถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับและผลทางเศรษฐกิจ โดยได้เตรียมจัดการระดมความคิดเห็นร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งจะเชิญภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง
นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนเข้ามาที่องค์กรจำนวนมากกรณีที่เอกชนถูกเจ้าหน้าที่รัฐเรียกร้องสินบนในการออกใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งมีทุกกระทรวง โดยหากมีการตรวจพบการกระทำผิดจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีอำนาจลงโทษตามกฎหมาย เช่น โครงการจำนำข้าว เป็นต้น
