- ยูโรโซนและไอเอ็มเอฟได้บรรลุข้อตกลงแผนการช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโร ซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าว ผู้ฝากเงินในธนาคารของไซปรัสจะถูกเก็บภาษีแบบครั้งเดียว (one-off) สำหรับเงินฝากโดยผู้มีเงินฝากในบัญชีธนาคารมากกว่า 100,000 ยูโรจะถูกหักภาษี 9.9% แต่สำหรับจำนวนเงินที่ต่ำกว่านั้นจะถูกเก็บภาษี 6.75% ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ไซปรัสระดมทุนได้ 5.8 พันล้านยูโร นับเป็นครั้งแรกที่แผนการช่วยเหลือทางการเงินประเทศในยูโรโซนระบุเงื่อนไขให้ผู้ฝากเงินในประเทศนั้นต้องรับภาระโดยตรง
- รัฐสภาใหม่ของอิตาลีลงมติเลือก ลอรา โบลดรินี จากพรรค SEL ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของพรรค Democratic Party (PD) ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลือก เปียโตร กราสโซ จากพรรค PD ให้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ซึ่งภารกิจแรกของรัฐสภาคือการหารืออย่างเป็นทางการเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในวันพุธที่จะถึงนี้
- รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนมี.ค.อยู่ที่ 71.8 จุด ลดลงจาก 77.6 จุดในเดือน ก.พ. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 78.0 จุด และต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.54 เนื่องจากผู้บริโภคไม่พอใจนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล และประชาชนที่เชื่อว่าตลาดแรงงานจะดีขึ้นนั้นมีจำนวนน้อยลง
- ธนาคารกลางสหรัฐ รายงานว่า ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐในเดือน ก.พ.ขยายตัว 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 79.6% สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.51 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงทน สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์
- ก.แรงงานสหรัฐ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ.ขยายตัว 0.7% จากเดือนก่อน ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 52 เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มสูงขึ้น และดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวขึ้น 2.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยยังไม่มีสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ FED
- ทำเนียบขาว ระบุว่า การลดงบประมาณรายจ่ายโดยอัตโนมัติซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานี้อาจฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลง 4-5 เดือนในปีนี้หากรัฐบาลและคองเกรสยังตกลงกันไม่ได้เรื่องปฏิรูปภาษี โดยคาดว่า การตัดลดงบรายจ่ายจะส่งผลกระทบให้ GDP ที่แท้จริงลดลงประมาณ 0.5% ในปีนี้
- สหรัฐเตรียมยกระดับการป้องกันขีปนาวุธเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ ด้วยการเพิ่มเครื่องบินสกัดกั้นขีปนาวุธข้ามทวีป 14 ลำในอลาสก้า และจะจัดหาเรดาร์เสริมให้แก่ญี่ปุ่น โดยงบประมาณรวมของมาตรการนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์
- หลี่ เค่อเฉียง แถลงครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนว่า การรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และการปกป้องความเป็นธรรมทางสังคม เป็นภารกิจสำคัญ 3 ประกาศของรัฐบาลใหม่ของจีน โดยมีเป้าในการเพิ่ม GDP ต่อคน และรายได้ส่วนบุคคล ขึ้นเป็น 2 เท่าของปี 2553 ให้ได้ภายในปี 2563 ซึ่งการจะบรรลุเป้านั้นจีนจะขยายตัวเฉลี่ยปีละที่ 7.5% อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จะเน้นให้ความสำคัญกับการขยายขนาดของกลุ่มชนชั้นกลาง และเพิ่มรายได้ให้ประชาชนที่ยากจน รวมทั้งการให้ประชาชนได้รับสวัสดิการทางสังคมอย่างทั่วถึง
- มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจจะเริ่มสูงขึ้นในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่เคยคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4 โดยหากอัตราเงินเฟ้อขยายตัวเกินกว่า 3.5% ธนาคารกลางจีนอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.25%ทั้งนี้ ได้คงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปีนี้ที่ +8.2% และเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้ เป็น +3.2% จากการประเมินครั้งก่อนที่ +3.0%
- พานาโซนิค คอร์ป ดำลังวางแผนขายธุรกิจเฮลธ์แคร์ 1 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับปรุงฐานะทางการเงินที่อ่อนแอจากการดำเนินงานที่ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา เพราะแม้ว่าเฮลธ์แคร์จะทำกำไร แต่จำเป็นต้องขายออกไปเนื่องจากต้องการเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรง ทั้งนี้ คาดกันว่าพานาโซนิคจะขาดทุน 7.65 แสนล้านเยนในปีงบการเงินที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. นี้
- ออง ซาน ซูจี เตรียมเดินทางเยือนญี่ปุ่น (เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2529) ในวันที่ 13 เม.ย.นี้ ซึ่ง ซูจีจะหารือกับ ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรี และ ฟูมิโอะ คิชิดะ รมว.ต่างประเทศ ของญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นที่ความคืบหน้าด้านปฏิรูปประชาธิปไตยในพม่า และจะเชิญให้ลงทุนในพม่าเพื่อกระตุ้นความเป็นประชาธิปไตย
- รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิในเดือน ก.พ.ได้ 1.59 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.7% โดยรายได้ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญได้แก่ ภาษีรถยนต์ ซึ่งเป็นผลจากโครงการรถยนต์คันแรก ส่งผลให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 8.3 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 13.0% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะด้านการบริโภคในประเทศ และรายได้ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น
- อธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในตลาดคอนโดมิเนียม โดยราคาที่สูงขึ้นเป็นผลจากการเพิ่มราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้างและแรงงาน ขณะที่ความต้องการคอนโดนมิเนียมแนวเส้นทางรถไฟฟ้ายังมีอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้สภาพแวดล้อมในตอนนี้ไม่ได้เอื้อต่อการเก็งกำไร เพราะการขายคอนโดมิเนียมมือสองหรือให้เช่าต่อ ไม่ได้ขายได้ง่ายนักและไม่สามารถทำกำไรได้มากมาย
- SET Index ปิดที่ 1,598.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 76,830 ล้านบาทโดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,988 ล้านบาท ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มบลูชิพที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ได้กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากคาดกันว่าสถาบันการเงินอาจจะได้เพิ่มอันดับเครดิตในปลายเดือน มี.ค.นี้ หลังจากที่มูดี้ส์ได้เพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ทรงตัวต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
