เอกชนแนะ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลงแรง 0.5% สกัดการเก็งกำไรจากทุนนอกป้องบาทแข็งค่าเร็วผิดปกติหลังแห่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล เผยส่งออกเริ่มลำบากหากแข็งค่าต่อเนื่องฉุดส่งออกไตรมาส 2-3 วูบแน่
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เองก็ได้เข้ามาแทรกแซงค่าเงินอยู่ในขณะนี้ซึ่งเห็นว่าแนวทางดังกล่าวอาจจะไม่สามารถรับมือได้เนื่องจากพบว่าทุนไหลเข้ายังมีมาก โดยดูได้จากการไหลเข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลก่อนหน้าที่ออกไปกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 3 เม.ย.นี้ควรจะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทันที 0.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75%
“ครั้งนี้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าของไทยไม่สะท้อนตามภูมิภาค เราแข็งกว่ามาก ซึ่งเป็นเรื่องตลาดเมื่อเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐที่เทียบกับเยนและยูโร ที่เขาอ่อนค่ากว่าเรา เพราะการที่ดอกเบี้ยเรายังคงสูงนั่นเอง การลดดอกเบี้ยลงแรงๆ นั้นจะเป็นการสกัดการเข้ามากินส่วนต่างดอกเบี้ยของไทยที่สูงได้ดีสุดและถือเป็นมาตรการระยะสั้นที่ทำได้และจะทันเหตุการณ์เพราะเชื่อว่าเงินทุนไหลเข้ายังมีมากอีกมาก” นายวัลลภกล่าว
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าสิ่งที่เอกชนกังวลขณะนี้คือคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ไตรมาส 2-3 เริ่มประสบปัญหาเนื่องจากไม่สามารถคาดเดาราคาได้ถูกหากรับออเดอร์ในราคาต่ำ แต่บาทไทยกลับแข็งค่าขึ้นมากก็จะทำให้เกิดปัญหาขาดทุนได้ จึงต้องการให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่ได้แข็งค่าเร็วอย่างที่เป็นอยู่ และขณะเดียวกันจะต้องสะท้อนกับประเทศคู่แข่งทางการค้า ไม่ใช่แข็งค่ากว่าเช่นปัจจุบัน
