xs
xsm
sm
md
lg

รัฐสภาไฟเขียว FTA ไทย-ชิลี เผยสินค้าและบริการไทยมีโอกาสเจาะตลาดได้เพิ่มขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐสภาไฟเขียวความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี คาดมีผลบังคับใช้ไตรมาส 4 ปีนี้ เผยสินค้าไทยมีโอกาสเพียบ ทั้งยานยนต์ ปลา เครื่องไฟฟ้า ก่อสร้าง ยาง อัญมณี แถมสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจบริการได้ถึง 100%

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสาธารณรัฐชิลีแล้ว ซึ่งในขั้นต่อไป กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการเตรียมการสำหรับการลงนามความตกลง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยจะช่วยเปิดโอกาสให้ไทยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการค้า โดยการขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยในตลาดส่งออกเดิมของไทย เช่นสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู)

ทั้งนี้ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี สินค้าไทย และชิลีอย่างน้อยร้อยละ 90 ของรายการสินค้า และมูลค่าการนำเข้าจะลดภาษีลงเหลือร้อยละ 0 ทันทีที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ส่วนสินค้าที่เหลืออีกร้อยละ 10 ของรายการสินค้าทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายจะลดภาษีลงเป็นลำดับ

โดยสินค้าที่คาดว่าไทยที่จะได้รับประโยชน์จากความตกลง มีตั้งแต่ยานยนต์ ปลาแปรรูป ปลากระป๋อง โพลิเมอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง และอัญมณี เป็นต้น ในขณะที่ชิลีจะได้ประโยชน์จากสินค้าเช่น ทองแดง และสินแร่เหล็ก ซึ่งไทยผลิตได้น้อย และมีความต้องการนำเข้าเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ชิลีได้เปิดตลาดการบริการให้ไทยเข้าไปลงทุนเกือบทุกสาขาบริการได้ถึงร้อยละ 100 รวมทั้งนักลงทุนชิลีก็ได้แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยกำหนดให้ไทยเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในการเป็นฐานการผลิต การกระจายสินค้าและการตลาดไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นที่ใกล้เคียง เช่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งไทยเองก็หวังให้ชิลีเป็นประตูทางการค้าสู่อเมริกาใต้ และประเทศอื่นๆ ที่ชิลีจัดทำ FTA ด้วยในอนาคต

ปัจจุบัน ชิลีเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 3 ของไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ รองจากบราซิล และอาร์เจนตินา ในปี 2555 ไทยได้ดุลการค้ากับชิลี 278.07 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งออกไปชิลีเป็นมูลค่า 628.25 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.05% ในขณะที่นำเข้าจากชิลีเป็นมูลค่า 350.18 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.1 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปชิลี ได้แก่ รถยนต์/อุปกรณ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ปูนซีเมนต์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยาง พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากชิลี ได้แก่ สินแร่ โลหะ สัตว์น้ำสด/แช่เย็น/แช่แข็งแปรรูป เยื่อกระดาษ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เป็นต้น

สำหรับการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับชิลี เกิดขึ้นระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 11 เมื่อปี 2546 โดยเริ่มมีการเจรจาระหว่างกันในเดือน เม.ย.2554 จนกระทั่งสามารถสรุปผลการเจรจาได้เมื่อเดือน ส.ค.2555 และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในเดือน พ.ย.2555
กำลังโหลดความคิดเห็น