“พาณิชย์” เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง สั่งเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศสำรวจสถานการณ์พืชผักสวนครัว หวั่งวิกฤตเหมือนปีก่อน เตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก เหตุมีปัญหาแค่ช่วงหน้าร้อน เตรียมมาตรการรับมือ เชื่อมโยงผักจากสวนสู่ผู้บริโภค จับตามะนาวเริ่มแพง ผักสดเริ่มขยับ
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมฯ ทั่วประเทศ ติดตามผลกระทบจากภัยแล้งที่มีต่อราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยหากพบว่าจังหวัดใดเกิดปัญหาสินค้าราคาแพง หรือมีจำนวนไม่เพียงพอ ให้ค้าภายในจังหวัดเร่งรายงานเข้ามาเพื่อหามาตรการไปช่วยเหลือทันที เพราะขณะนี้ หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง จนทำให้พื้นที่เพาะปลูกการเกษตรกรได้รับความเสียหาย
“ต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์ผักแพงในช่วงหน้าแล้งเหมือนปีก่อน อย่างมะนาวแพง ถั่วฝักยาวแพง เพราะแพงในช่วงสั้นๆ และเป็นเรื่องประจำที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้กรมฯ จะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนเหมือนปีก่อนที่มีการออกมาโจมตีเรื่องผักแพง ทั้งที่ผักสดถือเป็นสถานการณ์ปกติ ที่มีการปรับขึ้นลงตามฤดูกาล”
สำหรับมาตรการช่วยเหลือที่จะนำมาใช้จะเป็นมาตรการระยะสั้น โดยมีการเชื่อมโยงผักสดจากแหล่งเพาะปลูกที่มีจำนวนมากไปให้ในพื้นที่ขาดแคลน หรือราคาแพง อย่างในกรุงเทพฯ ที่ขณะนี้ได้รับรายงานว่าราคามะนาวเริ่มสูงขึ้น และต่อไปหากแพงขึ้นจนประชาชนเดือดร้อน ก็จะมีการนำมะนาวจากสวนราคาถูกมาขายตามสถานที่ราชการ รวมถึงขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่งทั่วประเทศ ในการทำโปรโมชั่นขายสินค้าอาหารสดในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วย
ทั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จะเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น กลุ่มพืชผักสวนครัว รวมถึงเนื้อสัตว์ แต่สินค้าเหล่านี้ราคาจะสูงขึ้นเป็นปกติในช่วงหน้าร้อนอย่างมะนาว ผักสด ผลไม้ อาจแพงขึ้นบ้าง เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ผลผลิตเสียหาย แต่พอผ่านช่วงหน้าร้อนเข้าสู่ฤดูฝนราคาจะกลับไปถูกเหมือนเดิม จึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปควบคุม และปล่อยให้เป็นไปตามฤดูกาล เพราะบางช่วงมะนาว หรือผักก็มีราคาถูกมากจนเกษตรกรขาดทุน จึงควรปล่อยให้เคลื่อนไหวเป็นไปตามกลไกของตลาด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สถานการณ์ราคาอาหารสดในฤดูร้อนปีนี้ พบว่า เริ่มส่งผลกระทบต่อราคาผักสดบ้างแล้ว โดยเฉพาะมะนาวได้ปรับขึ้นราคามาจากผลละ 1-2 บาท มาเป็นผลละ 4-5 บาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ ไปที่ผลละ 7-8 บาท ขณะที่ราคาผักสดในตลาดสดกรุงเทพฯ เริ่มขยับขึ้นแล้ว ล่าสุด กะหล่ำปลี กก.ละ 25-41 บาท แตงกวา กก.ละ 20-27 บาท ผักกาดขาว 20-45 บาท ผักคะน้า กก.ละ 20-35 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 40-55 บาท ต้นหอม กก.ละ 50-65 บาท กะหล่ำดอก กก.ละ30-40 บาท ผักกาดหอม กก.ละ 25-80 บาท เป็นต้น
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมฯ ทั่วประเทศ ติดตามผลกระทบจากภัยแล้งที่มีต่อราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตร เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยหากพบว่าจังหวัดใดเกิดปัญหาสินค้าราคาแพง หรือมีจำนวนไม่เพียงพอ ให้ค้าภายในจังหวัดเร่งรายงานเข้ามาเพื่อหามาตรการไปช่วยเหลือทันที เพราะขณะนี้ หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง จนทำให้พื้นที่เพาะปลูกการเกษตรกรได้รับความเสียหาย
“ต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์ผักแพงในช่วงหน้าแล้งเหมือนปีก่อน อย่างมะนาวแพง ถั่วฝักยาวแพง เพราะแพงในช่วงสั้นๆ และเป็นเรื่องประจำที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้กรมฯ จะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนเหมือนปีก่อนที่มีการออกมาโจมตีเรื่องผักแพง ทั้งที่ผักสดถือเป็นสถานการณ์ปกติ ที่มีการปรับขึ้นลงตามฤดูกาล”
สำหรับมาตรการช่วยเหลือที่จะนำมาใช้จะเป็นมาตรการระยะสั้น โดยมีการเชื่อมโยงผักสดจากแหล่งเพาะปลูกที่มีจำนวนมากไปให้ในพื้นที่ขาดแคลน หรือราคาแพง อย่างในกรุงเทพฯ ที่ขณะนี้ได้รับรายงานว่าราคามะนาวเริ่มสูงขึ้น และต่อไปหากแพงขึ้นจนประชาชนเดือดร้อน ก็จะมีการนำมะนาวจากสวนราคาถูกมาขายตามสถานที่ราชการ รวมถึงขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่งทั่วประเทศ ในการทำโปรโมชั่นขายสินค้าอาหารสดในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วย
ทั้งนี้ สินค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จะเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น กลุ่มพืชผักสวนครัว รวมถึงเนื้อสัตว์ แต่สินค้าเหล่านี้ราคาจะสูงขึ้นเป็นปกติในช่วงหน้าร้อนอย่างมะนาว ผักสด ผลไม้ อาจแพงขึ้นบ้าง เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ผลผลิตเสียหาย แต่พอผ่านช่วงหน้าร้อนเข้าสู่ฤดูฝนราคาจะกลับไปถูกเหมือนเดิม จึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปควบคุม และปล่อยให้เป็นไปตามฤดูกาล เพราะบางช่วงมะนาว หรือผักก็มีราคาถูกมากจนเกษตรกรขาดทุน จึงควรปล่อยให้เคลื่อนไหวเป็นไปตามกลไกของตลาด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สถานการณ์ราคาอาหารสดในฤดูร้อนปีนี้ พบว่า เริ่มส่งผลกระทบต่อราคาผักสดบ้างแล้ว โดยเฉพาะมะนาวได้ปรับขึ้นราคามาจากผลละ 1-2 บาท มาเป็นผลละ 4-5 บาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ ไปที่ผลละ 7-8 บาท ขณะที่ราคาผักสดในตลาดสดกรุงเทพฯ เริ่มขยับขึ้นแล้ว ล่าสุด กะหล่ำปลี กก.ละ 25-41 บาท แตงกวา กก.ละ 20-27 บาท ผักกาดขาว 20-45 บาท ผักคะน้า กก.ละ 20-35 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 40-55 บาท ต้นหอม กก.ละ 50-65 บาท กะหล่ำดอก กก.ละ30-40 บาท ผักกาดหอม กก.ละ 25-80 บาท เป็นต้น
