xs
xsm
sm
md
lg

อากาศร้อนทำดินแล้งริมแม่น้ำโขงยังปลูกพืชไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพดินตลิ่งริมแม่น้ำโขงในปีนี้แล้งจัด จนไม่สามารถปลูกพืชหรือผักชนิดใดใดได้
อุบลราชธานี - ความแห้งแล้งที่อุบลราชธานีแผ่ขยายถึงแม่น้ำโขง โดยความร้อนทำให้ผิวดินเหือดแห้งไม่อุ้มน้ำ ชาวบ้านตามริมแม่น้ำโขงที่อาศัยพื้นดินเพาะปลูกฤดูแล้งต้องงดการเพาะปลูกพืชผล ขณะที่พ่อเมืองย้ำเกษตรกรนอกเขตห้ามปลูกพืชเด็ดขาด เพราะรัฐบาลไม่มีเงินชดเชยหากผลผลิตเสียหายจากความแห้งแล้ง

ปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดอุบลราชธานีส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชริมแม่น้ำโขงในเขตบ้านท่าล้ง ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม ซึ่งมีลักษณะดินปนทราย อดีตช่วงหน้าแล้งเมื่อผืนดินโผล่พ้นน้ำชาวบ้านจะปลูกพืชตระกูลถั่วและพืชผักสวนครัว รวมทั้งทำนาปรัง แต่ฤดูแล้งปีนี้ไม่สามารถเพาะปลูกได้เนื่องจากน้ำผิวดินไม่มี

ประกอบกับอากาศร้อนกว่าปกติในทุกปีทำให้ไม่สามารถนำน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นมารดพืชผลให้เจริญเติบโตได้ เนื่องจากดินไม่อุ้มน้ำ ทำให้ชาวบ้านตามริมแม่น้ำโขงที่มีสภาพดินปนทราย ต้องประกอบอาชีพจับปลาในแม่น้ำ หรือเข้าไปรับจ้างในตัวอำเภอ เพื่อหารายได้

ปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศให้พื้นที่ 24 อำเภอใน 25 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง มีพื้นที่เพาะปลูกประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงจนพืชผลเสียหายแบ่งเป็นพืชสวนจำนวน 27,000 ไร่ นาข้าวอีกกว่า 5,000 ไร่

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงภัยแล้งที่เกิดขึ้นว่า ได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาฝนจะทิ้งช่วงราว 90 วัน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม จึงขอให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งห้ามทำการเพาะปลูก งดการเพาะปลูกพืชผล เพราะหากผลผลิตได้รับความเสียหายรัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเยี่ยวยาได้

สำหรับเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทาน ควรใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคในหน้าแล้งนี้ ด้านการช่วยเหลือหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยทหารได้นำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำใช้เป็นระยะจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เกษตรกรที่เคยเพาะปลูกผักริมน้ำโขงปีนี้ต้องงดไปโดยปริยาย
กำลังโหลดความคิดเห็น