เกษตรกรเมืองน้ำดำพึ่งตนเอง ขุดบ่อบาดาลในแปลงนาสู้ภัยแล้ง

กาฬสินธุ์ - พบเกษตรกรอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงทุนขุดบ่อบาดาลในแปลงนาเพื่อเป็นแหล่งน้ำสูบขึ้นหล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรัง แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ และไม่เสียโอกาสในการประกอบอาชีพเพื่อความอยู่รอด

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่แปลงนาบ้านน้อย ม.7 ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ นายสุดใจ บัวลอย เกษตรอำเภอฆ้องชัย ลงพื้นที่ติดตามการปรับตัวสู้กับสถานการณ์ภัยแล้งของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง โดยมีนายมาลัย ปรีสวิง เกษตรกรตำบลโคกสะอาด นายสาคร สุวิเศษ ผู้ใหญ่บ้าน รายงานสถานการณ์

นายสุดใจ บัวลอย เกษตรอำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่คุกคามพื้นที่ทำให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้รับผลกระทบจากสภาวะดินฟ้าอากาศที่แห้งแล้ง โดยเฉพาะทำให้เสียโอกาสในการทำนาปรังและปลูกพืชเสริมต่างๆ ที่เคยเป็นอาชีพหลัก ซึ่งแต่เดิมเคยได้รับน้ำจากชลประทานลำปาวสร้างรายได้ให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก

แต่จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ที่เขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำแห้งขอด ปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่จะปล่อยเพื่อทำการเกษตรกรรม ทางจังหวัดจึงได้ประกาศให้งดทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

นายสุดใจกล่าวอีกว่า เนื่องจากเกษตรกรอำเภอฆ้องชัย 5 ตำบลมีอาชีพหลักในการทำเกษตรกรรม จึงต้องดิ้นรนหาวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อความอยู่รอด จึงพบว่ายังมีการเสี่ยงทำนาปรัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่างงาน เป็นการสร้างโอกาสประกอบอาชีพแก้ไขปัญหาการว่างงาน จากการสำรวจมีประมาณ 5,000 ไร่โดยสูบน้ำจากแหล่งธรรมชาติ อาทิ บ่อน้ำสาธารณะและลำชี ประมาณ 4,500 ไร่ และลงทุนขุดบ่อน้ำบาดาลเองประมาณ 500 ไร่

ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอฆ้องชัยได้ให้การสนับสนุนโดยกำชับให้ใช้พื้นที่น้อย มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงต้นข้าวจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งบ่อบาดาลแต่ละบ่อควรให้บริการน้ำได้ประมาณ 3-4 ไร่ นอกจากนี้ยังรับลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง แจกจ่ายยาปราบศัตรูข้าว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นับเป็นความโชคดีท่ามกลางความแห้งแล้ง ที่การขุดบ่อบาดาลในแปลงนาได้ผลมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงต้นข้าวให้เจริญเติบโต และผลดีจากการขุดบ่อบาดาลยังได้น้ำดื่มน้ำใช้ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และใช้รดพืชผักสวนครัวเพื่อบริโภคในครัวเรือน เป็นการประหยัดรายจ่าย บรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตภัยแล้งได้อีกด้วย