อาเซียนดันเปิดเจรจา FTA อาเซียน-ฮ่องกง แทนให้เข้าร่วมวงอาเซียน-จีน เหตุอาเซียนอยู่ระหว่างเจรจา RCEP พร้อมสั่งเร่งเครื่องทุกทางดัน AEC เปิดปี 58 ตามแผน เล็งจัด AEM โรดโชว์บุกสหรัฐฯ และจีน เดือน มิ.ย.และก.ค.นี้
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 19 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม วานนี้ (8 มี.ค.) ว่า อาเซียนได้มีการหารือข้อเสนอของฮ่องกงที่จะขอเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งไทยสนับสนุน แต่อาเซียนเห็นพ้องกันว่าควรจะพิจารณาในลักษณะความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกงจะดีกว่า เพราะจะไม่กระทบต่อความตกลงอาเซียน-จีนที่ได้เจรจาจบไปแล้ว
ทั้งนี้ อาเซียนยังมีการเจรจาความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่อาเซียนกับ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ที่กำลังเจรจากันอีก และฮ่องกงไม่ได้เป็นภาคีอาเซียน-จีน ก็จะทำให้เกิดปัญหาในการเจรจาได้ และล่าสุด AEM ยังได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะเจรจา RCEP และขอให้อาเซียนให้ความสำคัญต่อการเจรจา RCEP เป็นลำดับแรก เพื่อให้หาข้อสรุปขอบเขตการเจรจาและการเจรจาความตกลงให้เสร็จภายในปี 2558
นายบุญทรงกล่าวว่า การผลักดันอาเซียนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นั้น AEM ได้มีการหารือถึงการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อน AEC ให้ทันตามกำหนดวันที่ 31 ธ.ค. 2558 พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้อาเซียนให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาในเรื่องมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) โดยให้มีแผนการดำเนินการแก้ไขให้ชัดเจน และให้นำเสนอที่ประชุม AEM รับรองในการประชุมเดือน ส.ค. 2556 โดยเบื้องต้นให้มีการจัดทำโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหา NTMs ในบางสินค้าก่อน รวมทั้งให้มีการปรับประสานกฎระเบียบ มาตรฐานความสอดคล้องที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ให้การรับรองเอกสารมาตรการสำคัญเพื่อดำเนินการไปสู่ AEC ที่ต้องเร่งรัดให้เสร็จภายในปี 2556 และ 2558 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 10 พิจารณาในเดือน เม.ย. เช่น แผนงานและกลไกการดำเนินการเรื่องมาตรการที่มิใช่ภาษี การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอาเซียน การจัดทำมาตรฐานของสินค้า การจัดทำระบบศุลกากรหน้าต่างเดียว และการจัดทำคลังข้อมูลของอาเซียน
นอกจากนี้ยังเห็นควรให้เมียนมาร์และมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2557 และ 2558 เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการดำเนินการสู่ AEC รวมทั้งอาเซียนจะหารือแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปภายหลังปี 2015 ในช่วงการประชุม AEM ครั้งนี้ 45 ในเดือน ส.ค. 2556
สำหรับการจัด AEM Roadshow เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน โดยในวันที่ 10 มิ.ย. 2556 จะเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐฯ ไปนครนิวยอร์กและลอสแองเจลิส ส่วนที่จีน มีกำหนดจัดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ค. 2556 โดยจะเดินทางไปที่ปักกิ่ง กวางตุ้ง และกวางสี
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 19 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม วานนี้ (8 มี.ค.) ว่า อาเซียนได้มีการหารือข้อเสนอของฮ่องกงที่จะขอเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งไทยสนับสนุน แต่อาเซียนเห็นพ้องกันว่าควรจะพิจารณาในลักษณะความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกงจะดีกว่า เพราะจะไม่กระทบต่อความตกลงอาเซียน-จีนที่ได้เจรจาจบไปแล้ว
ทั้งนี้ อาเซียนยังมีการเจรจาความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่อาเซียนกับ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ที่กำลังเจรจากันอีก และฮ่องกงไม่ได้เป็นภาคีอาเซียน-จีน ก็จะทำให้เกิดปัญหาในการเจรจาได้ และล่าสุด AEM ยังได้เห็นชอบให้มีการตั้งคณะเจรจา RCEP และขอให้อาเซียนให้ความสำคัญต่อการเจรจา RCEP เป็นลำดับแรก เพื่อให้หาข้อสรุปขอบเขตการเจรจาและการเจรจาความตกลงให้เสร็จภายในปี 2558
นายบุญทรงกล่าวว่า การผลักดันอาเซียนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นั้น AEM ได้มีการหารือถึงการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อน AEC ให้ทันตามกำหนดวันที่ 31 ธ.ค. 2558 พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้อาเซียนให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาในเรื่องมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTMs) โดยให้มีแผนการดำเนินการแก้ไขให้ชัดเจน และให้นำเสนอที่ประชุม AEM รับรองในการประชุมเดือน ส.ค. 2556 โดยเบื้องต้นให้มีการจัดทำโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหา NTMs ในบางสินค้าก่อน รวมทั้งให้มีการปรับประสานกฎระเบียบ มาตรฐานความสอดคล้องที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ให้การรับรองเอกสารมาตรการสำคัญเพื่อดำเนินการไปสู่ AEC ที่ต้องเร่งรัดให้เสร็จภายในปี 2556 และ 2558 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 10 พิจารณาในเดือน เม.ย. เช่น แผนงานและกลไกการดำเนินการเรื่องมาตรการที่มิใช่ภาษี การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของอาเซียน การจัดทำมาตรฐานของสินค้า การจัดทำระบบศุลกากรหน้าต่างเดียว และการจัดทำคลังข้อมูลของอาเซียน
นอกจากนี้ยังเห็นควรให้เมียนมาร์และมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2557 และ 2558 เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการดำเนินการสู่ AEC รวมทั้งอาเซียนจะหารือแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปภายหลังปี 2015 ในช่วงการประชุม AEM ครั้งนี้ 45 ในเดือน ส.ค. 2556
สำหรับการจัด AEM Roadshow เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน โดยในวันที่ 10 มิ.ย. 2556 จะเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐฯ ไปนครนิวยอร์กและลอสแองเจลิส ส่วนที่จีน มีกำหนดจัดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ก.ค. 2556 โดยจะเดินทางไปที่ปักกิ่ง กวางตุ้ง และกวางสี
