อาเซียนเห็นชอบชงผู้นำประกาศเปิดเสรี RCEP ระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจา 6 ประเทศ คาดเริ่มเจรจาต้นปี 56 เสร็จปี 58 พร้อมเปิด AEC “บุญทรง”เร่งเกาหลีเปิดตลาดไก่ หลังไทยปลอดหวัดนก
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศภาคีความตกลงการค้าเสรีของอาเซียน 6 ประเทศ (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ว่า ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้เสนอผู้นำเพื่อพิจารณาประกาศการเจรจาความตกลงภูมิภาคหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (RCEP) ในการประชุมสุดยอดในเดือน พ.ย.นี้ โดยในระหว่างนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสไปจัดทำกรอบการเจรจาให้แล้วเสร็จก่อนการประชุม
สำหรับกรอบการเจรจา จะครอบคลุมในทุกมิติการค้า ทั้งการเปิดเสรีด้านการค้า บริการ ลงทุน มาตรการทางการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยการเปิดเสรีจะยึดกรอบจาก FTA ที่อาเซียนมีกับประเทศคู่เจรจาเป็นหลัก และการเปิดเสรีจะไม่น้อยกว่าข้อตกลงเดิมที่มีอยู่ ตั้งเป้าเริ่มการเจรจาต้นปี 2556 แล้วเสร็จในปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“ความตกลง RCEP จะเป็นข้อตกลงทางการค้าที่ใหญ่มาก มีสมาชิกรวม 16 ประเทศ โดยในด้านการค้าจะเป็นตลาดที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันสูงถึง 17.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนไทยค้าขายกับประเทศในกลุ่ม RCEP กว่า 2.55 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 56% ของยอดรวมการค้าไทย”
ทั้งนี้ ผลการศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พบว่า การจัดทำข้อตกลง RCEP จะทำให้จีดีพีไทยเพิ่มขึ้น4.03% โดยสินค้าที่จะได้ประโยชน์ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้แปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบยานพาหนะ ยางพารา และพลาสติก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ต้องเสนอกรอบการเจรจา RCEP ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบอีก เนื่องจากได้เสนอและได้รับความเห็นชอบกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของไทยภายใต้การเจรจาอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่มไว้แล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2552 ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับการเจรจาอื่นๆ ไทยได้หารือทวิภาคีกับเกาหลี โดยได้ขอให้เกาหลีเร่งพิจารณาเปิดตลาดให้นำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย หลังจากที่ไทยปลอดโรคไข้หวัดนก และทางสหภาพยุโรป (อียู) ได้ยกเลิกห้ามนำเข้า โดยปัจจุบันไทยสามารถส่งไก่สดเข้าตลาดอียูได้แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการพิจาณายกเลิกห้ามนำเข้า โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจโรงงานแล้ว คาดว่าจะประกาศยกเลิกได้เร็วๆ นี้ จึงได้เร่งรัดให้เกาหลีพิจารณาโดยเร็ว
ส่วนการหารือกับญี่ปุ่น ได้เจรจาหาทางร่วมมือกันในการเข้าไปพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย ประเทศพม่า
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศภาคีความตกลงการค้าเสรีของอาเซียน 6 ประเทศ (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ว่า ที่ประชุมได้เห็นพ้องให้เสนอผู้นำเพื่อพิจารณาประกาศการเจรจาความตกลงภูมิภาคหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (RCEP) ในการประชุมสุดยอดในเดือน พ.ย.นี้ โดยในระหว่างนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสไปจัดทำกรอบการเจรจาให้แล้วเสร็จก่อนการประชุม
สำหรับกรอบการเจรจา จะครอบคลุมในทุกมิติการค้า ทั้งการเปิดเสรีด้านการค้า บริการ ลงทุน มาตรการทางการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยการเปิดเสรีจะยึดกรอบจาก FTA ที่อาเซียนมีกับประเทศคู่เจรจาเป็นหลัก และการเปิดเสรีจะไม่น้อยกว่าข้อตกลงเดิมที่มีอยู่ ตั้งเป้าเริ่มการเจรจาต้นปี 2556 แล้วเสร็จในปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“ความตกลง RCEP จะเป็นข้อตกลงทางการค้าที่ใหญ่มาก มีสมาชิกรวม 16 ประเทศ โดยในด้านการค้าจะเป็นตลาดที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันสูงถึง 17.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนไทยค้าขายกับประเทศในกลุ่ม RCEP กว่า 2.55 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 56% ของยอดรวมการค้าไทย”
ทั้งนี้ ผลการศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พบว่า การจัดทำข้อตกลง RCEP จะทำให้จีดีพีไทยเพิ่มขึ้น4.03% โดยสินค้าที่จะได้ประโยชน์ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้แปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบยานพาหนะ ยางพารา และพลาสติก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ต้องเสนอกรอบการเจรจา RCEP ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบอีก เนื่องจากได้เสนอและได้รับความเห็นชอบกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีของไทยภายใต้การเจรจาอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่มไว้แล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2552 ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ
นายบุญทรงกล่าวว่า สำหรับการเจรจาอื่นๆ ไทยได้หารือทวิภาคีกับเกาหลี โดยได้ขอให้เกาหลีเร่งพิจารณาเปิดตลาดให้นำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย หลังจากที่ไทยปลอดโรคไข้หวัดนก และทางสหภาพยุโรป (อียู) ได้ยกเลิกห้ามนำเข้า โดยปัจจุบันไทยสามารถส่งไก่สดเข้าตลาดอียูได้แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการพิจาณายกเลิกห้ามนำเข้า โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจโรงงานแล้ว คาดว่าจะประกาศยกเลิกได้เร็วๆ นี้ จึงได้เร่งรัดให้เกาหลีพิจารณาโดยเร็ว
ส่วนการหารือกับญี่ปุ่น ได้เจรจาหาทางร่วมมือกันในการเข้าไปพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย ประเทศพม่า