xs
xsm
sm
md
lg

16 ชาติประกาศแล้วเริ่มเจรจาเขตการค้าเสรี RCEP คุยปี 56 เสร็จปี 58 ชี้ไทยได้ประโยชน์เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้นำ 16 ชาติประกาศเริ่มเจรจา RCEP แล้ว ตั้งเป้าถกต้นปี 56 เสร็จปี 58 เผยไทยได้ประโยชน์อื้อ จีดีพีเพิ่ม 4.03% สินค้าส่งออกได้อีกเพียบ “บุญทรง” ลงนามพิธีสารอาเซียน-จีน แก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้า และลงนามกับอาเซียนเคลื่อนย้ายบุคลากร

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้นำ 16 ชาติได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะเจรจาความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตั้งแต่ต้นปี 2556 และมุ่งหมายให้การเจรจาแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2558 เพื่อผลักดันให้ RCEP เป็นความตกลงที่มีคุณภาพสูงและทันสมัยในการสนับสนุนการขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน

ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยค้าขายกับประเทศในกลุ่ม RCEP กว่า 2.55 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 56% ของยอดรวมการค้าของไทย และจะช่วยผลักดันให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 4.03% และเพิ่มสวัสดิการสังคมคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสินค้าหลายกลุ่ม เช่น ผัก ผลไม้แปรรูป อาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และส่วนประกอบของยานพาหนะ ยางพารา และพลาสติก เป็นต้น

สำหรับ RCEP จะเป็นความตกลงยุคใหม่ของอาเซียนที่จะพัฒนาต่อยอดจากความตกลงการค้าเสรีที่อาเซียนมีอยู่แล้ว 5 ฉบับ กับ 6 ประเทศ (อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์) ซึ่งมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดย RCEP จะเป็นความตกลงที่มีคุณภาพสูงทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างครอบคลุมทุกมิติการค้า ทั้งสินค้า บริการ ลงทุน มาตรการการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้า และการลงทุน มีการปรับประสานกฎกติกาทางการค้าต่างๆ และกฎถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งจะอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงที่มีอยู่เพื่อเสริมโอกาสการค้าและลงทุนในตลาดที่มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันสูงถึง 17,100 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นายบุญทรงกล่าวว่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียน-จีน รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและจีนได้ลงนามพิธีสารอาเซียน-จีน 2 ฉบับ ฉบับแรกคือ พิธีสารเพื่อผนวกข้อบทอุปสรรคเทคนิคต่อการค้า และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชเข้าไปในความตกลงด้านการค้าสินค้า ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน หรือพิธีสาร SPS/TBT และพิธีสารเพื่อแก้ไขกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน โดยพิธีสารทั้งสองฉบับจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 ม.ค. 2556 ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการทำการค้า และช่วยให้การเจรจาการค้าเสรีทำได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ อาเซียน 10 ประเทศยังได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดาของอาเซียน ซึ่งจะทำให้บุคลากรในสาขาบริการที่กำหนดไว้สามารถเคลื่อนย้ายในอาเซียนได้ ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไขไว้ 2 ประเภท คือ ผู้ที่จะเข้ามาติดต่อธุรกิจ และผู้ที่โอนย้ายภายในบริษัท แต่ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายของภาคแรงงาน และไม่มีผลกระทบต่อแรงงานไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น