“อภิสิทธิ์” เตือน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ต้องวางท่าทีให้เหมาะสม อย่าตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของสหรัฐฯ-จีน มหาอำนาจของโลก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลื่อนประชุมผู้นำอาเซียนจาก 1 ม.ค. 2558 เป็น 31 ธ.ค. 2558 ว่า ตนไม่แปลกใจและ เข้าใจว่าคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่คิดว่าเราต้องพยายามเดินหน้าสร้างความพร้อมให้เร็วที่สุด ส่วนการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนถูกเลื่อนออกไป 1 ปีจะกระทบความเชื่อมั่นของประชาคมโลกหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าคงส่งผลเล็กน้อย คือฝ่ายที่มองอาเซียนว่าไม่ค่อยเข้มแข็ง อาจจะมองว่านี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่บ่งบอกถึงความที่อาเซียนยังไม่แข็งแรงพอที่จะสามารถผลักดันอะไรได้อย่างรวดเร็ว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีที่มหาอำนาจ 2 ซีก อย่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกายื่นมือเข้ามาในอาเซียนมากขึ้นนั้น ตนเป็นห่วงว่าในแถลงการณ์ของอาเซียนนั้นจะมีการใส่ข้อเรียกร้องต่อจีนมากเกินไป ตรงนี้จะเป็นภาวะสุ่มเสี่ยงที่น่าวิตกหรือไม่ว่าอาเซียนจะแตกกัน โดยประเทศอาเซียนต่างๆ ควรจะได้ประโยชน์จากการที่ภูมิภาคนี้มีศักยภาพสูงที่จะเติบโตต่อไป แต่ขณะเดียวกันนั้นก็ต้องเข้าใจว่า พอเป็นเช่นนี้ การช่วงชิงระหว่างมหาอำนาจก็ต้องเกิดขึ้นแน่ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นแต่ละประเทศก็คงจะต้องวางจุดยืนของตนเองให้เหมาะสมว่าจะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเงื่อนไขนี้อย่างไร อีกทั้งต้องหลีกเลี่ยงการกลายเป็นเหยื่อหรือไปตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจ
“ประเทศที่จะต้องวางท่าทีให้เหมาะสมก็คือประเทศที่ไม่ได้เป็นคู่กรณีกับจีน อย่างกรณีของไทย ช่วงที่ผมทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน เราบอกว่าเวลาที่จะต้องไปตกลงหรือหาข้อยุติเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้นั้น ประเทศที่เป็นคู่กรณีจะต้องเป็นผู้ที่ไปเจรจากันบนหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ ผมคิดว่าอาเซียนคงไม่เข้าไปยุ่งตรงนั้น ส่วนหน้าที่อาเซียนคือ 1. ดูแลว่าการไปแก้ปัญหาอยู่บนพื้นฐานของการยึดหลักสันติวิธี 2. อย่าให้ความขัดแย้งมากระทบต่อเรื่องของการเดินเรือในพื้นที่ แต่ว่าเข้าใจว่าตอนหลังประเทศที่เป็นคู่กรณี และรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาเอง ก็พยายามที่จะบอกว่าอาเซียนต้องมีท่าทีเรียกร้องต่อจีนมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม อาเซียนควรจะสามารถเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ทั้งสองมหาอำนาจมาคบหากับเรา แล้วก็ต้องช่วยกันทำให้เกิดความสมดุล แต่หากอาเซียนเอียงไปทางหนึ่งทางใด ตนคิดว่าจะไม่เป็นประโยชน์กับทางประเทศในกลุ่มอาเซียนเอง”
