“บุญทรง” สั่งกรมการค้าต่างประเทศศึกษาแผนระบายข้าวทุกชนิด ทั้งแบบประมูลเป็นการทั่วไปและผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า คาดแนวโน้มราคาตลาดข้าวโลกพุ่ง หลังจีน-อินเดีย ผลผลิตลดลง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดข้าวกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะระบายข้าว จึงได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศไปพิจารณาการระบายข้าวแบบเปิดประมูลเป็นการทั่วไปว่าควรดำเนินการช่วงใด และให้ศึกษาความเป็นไปได้การระบายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยให้พิจารณาขายทั้งข้าวขาวและข้าวหอมมะลิในคราวเดียวกัน แต่ยังไม่กำหนดปริมาณการระบาย
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดมีความต้องการข้าวอย่างมากจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง โดยจีนมีผลผลิตลดลง เช่นเดียวกับเวียดนามและอินเดียที่ผลผลิตลดลง หลังการส่งออกข้าวก่อนหน้านี้ ส่วนไทยจากเดิมคาดว่าข้าวนาปีจะมีทั้งสิ้น 15 ล้านตัน แต่ผลผลิตจริงมีเพียง 10.9 ล้านตัน ทำให้ขณะนี้เป็นช่วงใกล้สิ้นฤดูกาลผลิต ทำให้ไม่มีข้าวเหลือในตลาด ส่วนข้าวนาปรังจากเดิมคาดว่าจะมีปริมาณ 10 ล้านตัน แต่ผลผลิตจริงน่าจะมีเพียง 7-9 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้ง
ส่วนแผนระบายข้าวผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น การขายในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ก็ยังให้เดินหน้าต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการคืนเงินให้กระทรวงการคลัง ซึ่งล่าสุดคืนเงินไปแล้วรวม 80,000 ล้านบาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดข้าวกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะระบายข้าว จึงได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศไปพิจารณาการระบายข้าวแบบเปิดประมูลเป็นการทั่วไปว่าควรดำเนินการช่วงใด และให้ศึกษาความเป็นไปได้การระบายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยให้พิจารณาขายทั้งข้าวขาวและข้าวหอมมะลิในคราวเดียวกัน แต่ยังไม่กำหนดปริมาณการระบาย
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดมีความต้องการข้าวอย่างมากจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง โดยจีนมีผลผลิตลดลง เช่นเดียวกับเวียดนามและอินเดียที่ผลผลิตลดลง หลังการส่งออกข้าวก่อนหน้านี้ ส่วนไทยจากเดิมคาดว่าข้าวนาปีจะมีทั้งสิ้น 15 ล้านตัน แต่ผลผลิตจริงมีเพียง 10.9 ล้านตัน ทำให้ขณะนี้เป็นช่วงใกล้สิ้นฤดูกาลผลิต ทำให้ไม่มีข้าวเหลือในตลาด ส่วนข้าวนาปรังจากเดิมคาดว่าจะมีปริมาณ 10 ล้านตัน แต่ผลผลิตจริงน่าจะมีเพียง 7-9 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้ง
ส่วนแผนระบายข้าวผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น การขายในรูปรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ก็ยังให้เดินหน้าต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการคืนเงินให้กระทรวงการคลัง ซึ่งล่าสุดคืนเงินไปแล้วรวม 80,000 ล้านบาท