xs
xsm
sm
md
lg

บ้านปูคาดปีนี้รายได้ไม่โตขึ้น เหตุราคาฉุดแม้ขายถ่านหินเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “บ้านปู” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.17 แสนล้านบาท แม้ว่าจะผลิตและขายถ่านหินเพิ่มขึ้น 4 ล้านตันแตะ 48 ล้านตัน เหตุราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปีนี้ลดเหลือ 80 เหรียญสหรัฐ/ตัน เผยงบลงทุนปีนี้ 270 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นลงทุนในอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการผลิตและขายถ่านหิน 48 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายรวม 43.8 ล้านตัน มาจากการผลิตถ่านหินที่อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 2 ล้านตัน และจีนเพิ่มขึ้น 2 ล้านตัน ขณะที่ราคาขายถ่านหินในอินโดนีเซียลดลง 10 เหรียญสหรัฐ/ตัน และออสเตรเลีย ลดลงไม่มาก 2-3 เหรียญสหรัฐ/ตัน ดังนั้นราคาขายถ่านหินของบริษัทฯ เฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำกว่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้รายได้ปี 2556 จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.17 แสนล้านบาท

ส่วนงบลงทุน 5 ปีนี้ (2555-2558 ) ลดลงจาก 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 1,248 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีนี้ใช้งบลงทุน 270 ล้านเหรียญสหรัฐ เน้นลงทุนในอินโดนีเซีย และออสเตรเลียเป็นหลัก ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวไม่รวมการซื้อกิจการเหมืองถ่านหินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยยอมรับว่าบริษัทฯ ไม่เน้นการซื้อกิจการเหมืองถ่านหินใหม่ในปีนี้ เว้นแต่เป็นโครงการที่ดี เนื่องจากบริษัทต้องการสร้างกระแสเงินสดจากเหมืองถ่านหินเดิมที่มีดำเนินการอยู่

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความสามารถในการซื้อเหมืองถ่านหินใหม่ที่อินโดนีเซีย ขนาดวงเงิน 300-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะรักษาอัตราหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 1เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.83 บาท

ส่วนความคืบหน้าทำเหมืองถ่านหินในมองโกเลียนั้น อยู่ระหว่างการพัฒนาและเตรียมความพร้อม คาดว่าจะเริ่มขายถ่านหินได้ในปี 2557 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะขายถ่านหินให้กับโครงการที่นำถ่านหินไปผลิตเป็นเคมิคอล (Coal Chemical )ในประเทศจีน แต่บริษัทฯ ไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการดังกล่าว

นางสมฤดีกล่าวต่อว่า ในปีนี้แนวโน้มราคาถ่านหินในตลาดโลกคาดว่าอยู่ที่ 95-100 เหรียญสหรัฐ/ตัน ปรับตัวสูงขึ้นจากกลางปี2555 ที่มีราคาต่ำกว่า 85 เหรียญสหรัฐ/ตัน ปัจจุบันราคาขยับมาอยู่ที่ 95 เหรียญสหรัฐ/ตันแล้ว เนื่องจากมีปัจจัยหนุนเข้ามาเสริม โดยคาดว่าปีนี้จีนยังนำเข้าถ่านหินเพิ่มเป็น 170 ล้านตันจากปีก่อนนำเข้า 147 ล้านตัน และอินเดียมีแนวโน้มนำเข้าถ่านหินมาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเชลล์แก๊สนั้นจะยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความพร้อมด้านท่อก๊าซฯ แต่เชื่อว่าการส่งออกไปต่างประเทศยังมีข้อจำกัดด้านการขนส่งและขึ้นกับนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลทำให้การใช้ถ่านหินในตลาดโลกลดลง ทำให้ราคถ่านหินไม่น่าจะต่ำกว่า 100 เหรียญใน 10 ปีข้างหน้า

ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าหงสา ที่ สปป.ลาว ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 40% คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในไตรมาส 3/2558 ทำให้สัดส่วนรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าของบ้านปูเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญจาก 13% เป็น 20% นอกจากนี้ ยังศึกษาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศด้วย รวมทั้งไทย หากรัฐบาลมีนโยบายต้องการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบัน 14% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน

นางสมฤดีกล่าวถึงปัญหาคดีความระหว่างบ้านปูกับกลุ่มนายศิวะ งานทวี นั้น ขณะนี้บริษัทฯ ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น คาดว่าจะใช้เวลานาน 3 ปีในชั้นอุทธรณ์ เมื่อรู้ผลตัดสินของศาลอุทธรณ์ก่อนจึงค่อยพิจารณาวาจะตั้งสำรองความเสียหายจากคดีนี้หรือไม่ พร้อมยืนยันคดีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการโรงไฟฟ้าหงสาแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น