“เพ้ง” ยัวะโดนโจมตีในโลกออนไลน์ ปัดข่าวเอี่ยวผลประโยชน์ร่วม “บ้านปู” สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

“พงษ์ศักดิ์” ฉุน! ถูกโจมตีผ่านสังคมออนไลน์ อ้างไทยผลิตน้ำมันวันละ 1 ล้านบาร์เรล แต่ส่งออกหมด ทำให้ไทยต้องซื้อน้ำมันเข้ามาใช้ ชี้เป็นการมั่วปล่อยข้อมูลด้านพลังงานที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายต่อกระทรวง สั่งทีมกฎหมายดำเนินคดีเอาผิดจริงจัง ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ร่วมกับ “บ้านปู” กรณีหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน พร้อมย้ำ 5 เม.ย.นี้ ไทยรอดวิกฤตไฟฟ้าดับ ลั่นมีสำรองน้ำมันพุ่งเกิน 1,700 เมกะวัตต์

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงพลังงานดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลที่พยายามให้ข้อมูลบิดเบือนด้านพลังงานผ่านทางสังคมออนไลน์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับกระทรวงพลังงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีกล่าวอ้างว่าไทยผลิตน้ำมันได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ส่งออกจนหมดและต้องไปซื้อน้ำมันจากต่างประเทศเข้ามาใช้แทนทำให้คนไทยต้องใช้น้ำมันราคาแพง ทั้งที่ราคาควรอยู่ที่ 4 บาทต่อลิตรนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลที่แท้จริงประเทศไทยผลิตน้ำมันได้เพียง 1 แสนบาร์เรลต่อวันเท่านั้น แต่น้ำมันที่ผลิตได้มีสารตะกั่วปน ซึ่งไม่ผ่านมาตรฐานสำหรับใช้กับโรงกลั่นของไทย ดังนั้นจึงต้องส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ส่วนน้ำมันที่มีการปนสารตะกั่วน้อยยังคงนำมาผลิตผสมใช้ในประเทศอยู่ ดังนั้น การซื้อน้ำมันราคา 4 บาทต่อลิตรย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนดังกล่าว

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวกล่าวหาว่าตนมีผลประโยชน์กับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กรณีสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทดังกล่าว และไม่เคยมีส่วนผูกพันกันแต่อย่างใด แต่คาดว่าสาเหตุที่ถูกกล่าวหามาจากการพาประชาชนเข้าไปศึกษาดูงานของบริษัท บ้านปูฯ ที่ผลิตถ่านหินสะอาด เพื่อให้ประชาชนได้เห็นสภาพตามความเป็นจริงเท่านั้น ส่วนบริษัท บ้านปูฯ จะได้สร้างโรงไฟฟ้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดำเนินงาน แต่ต้องเข้ามาด้วยวิธีการที่ถูกต้องเท่านั้น

สำหรับช่วงวิกฤตไฟฟ้า 5-14 เม.ย. 2556 ที่พม่าปิดซ่อมท่อก๊าซฯ และส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของไทยนั้น ยืนยันว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับอย่างแน่นอน เนื่องจากสามารถเพิ่มปริมาณสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,700 เมกะวัตต์ จากเดิมที่คาดว่าจะเหลือต่ำสุดที่ 700 เมกะวัตต์เท่านั้น โดยได้รับความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรม ราชการ และประชาชนที่จะช่วยกันประหยัด ทำให้สำรองไฟฟ้าสูงกว่าระดับมาตรฐานเกิน 1,200 เมกะวัตต์อยู่แล้ว

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้ากรุงเทพ (เอ็กโก) กล่าวว่า ในปี 2556 นี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 16,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการพลังงานต่างๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ ในเบื้องต้นบริษัทจะใช้เงินลงทุนในโครงการที่ขนอมก่อน ประมาณ 7,500 ล้านบาท โซลาร์โค พาวเวอร์ 4,700 ล้านบาท และไซยะบุรี 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เงินลงทุน 16,000 ล้านบาทของบริษัทนั้นจะมาจากการกู้ยืมสถาบันเป็นหลัก และเงินลงทุนในส่วนนี้จะไม่เกี่ยวกับเงินในการซื้อกิจการหรือควบรวม ในส่วนของการจัดเตรียมข้อเสนอโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (ไอพีพี) บริษัทคาดว่าจะรู้ผลได้ไม่เกินไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี 2556 นี้