แมงเม้าท์เล่าอินไซด์มาแล้วจร้าาาา .... ผ่านมาอย่างสุดสวิงกับตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจบสัปดาห์แบบไฉไลแบบทำสถิติสูงสุดรอบกว่า 18 ปี เปิดมา 2 วันแรก ทำใจหาย ร่วงต่ำลงไปจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่ 1486.20 จุด ก่อนที่ "ฤทธิ์เดช" ของคำแถลงของพี่เบิ้ม "พญาอินทรีย์" บารักโอบามา ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ที่ยังคงเจตนาลุยต่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้สำแดงปฎิหารย์ ดันให้ตลาดหุ้นทะยานกลับขึ้นมาอย่างแรงในวันพุธ แถมทะลุยืนเหนือ 1500 จุด จากนั้นจึงไล่ขึ้นไปทำสถิติสูงสุด 1,527.48 จุด ในวันพฤหัส แม้วันศุกร์จะถูกเทขายออกมาแต่ก็ไม่เสียหายเพราะปิดที่ 1521.52 จุด ยังยืนเหนือ 1,510 จุด ได้ แถมบรรดาโบรกเกอร์ก็ยังสำทับยืนยันว่าตลาดหุ้นไทยยังดี โดยเฉพาะคำพูดของ บล.ภัทร โบรกที่คุ้ยเคยกับต่างชาติ อย่างดีที่ประกาศปรับเป้าเป็น 1700 จุด ในปีนี้
แม้ว่าในภาพรวมทั้งสัปดาห์ ต่างชาติยังจะขายออกอีก 3,940 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นกุมภาพันธ์ยังไม่ถึงเดือนขายออกไปทั้งสิ้น 13,069 ล้านบาท จนกระทั้งยอดซื้อสะสมตั้งแต่ต้นปีเหลือแค่ 1,967 ล้านบาทเท่านั้น เหมือนจะน่าใจหาย แต่ตลาดฟิวเจอร์กลับดูดีขึ้นจากที่ต่างชาติเคยขายแหลกเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1,084 สัญญา แม้จะซื้อเล็กๆ แต่ก็ยังดีที่กลับมาซื้อ ติดตามต่อเนื่องในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ถ้ายังซื้อในส่วนของ ฟิวเจอร์ ก็ยังเป็นเรื่องดี
ฝั่งตลาดหุ้นต่างชาติ ในส่วนของสหรัฐ ดูทรงๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดาวโจนส์ปิดที่ 13981.76 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1519.79 จุด ส่วน Nasdaq ปิดที่ 3192.03 จุด โดยสรุปทั้งสัปดาห์ ดาวโจนส์ และ Nasdaq ติดลบ 0.1 % ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 0.1 % น่ายินดีนะเนี่ยกับ S&P 500 ที่สามารถปรับตัวขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน เพราะครั้งสุดท้ายที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน เกิดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2010 และ มกราคม 2011 นู้นนนน ส่วน ยุโรปก็เริ่มอาการดีขึ้น แต่ก็ยังต้องจับตา เพราะดูเหมือนว่านักลงทุนทั่วโลกจะรอๆ อะไรอยู่ ถ้ารอผลการประชุมกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ G20 ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไร เพราะแค่ร่วมกันประกาศไม่ทำสงครามค่าเงินเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจโลก เชือดเฉือนญี่ปุ่นที่อัดฉีดเงินเล็กๆ แต่ไม่ได้พุ่งเป้าฟันตรงๆ
ที่พอจะมีน้ำหนัก และน่าสนใจก็ต้องพุ่งเป้ากันไปที่ การเลือกตั้งของอิตาลีในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ ว่า คนสร้างหนี้ แบลุสโคนี่จะกลับมาอีกไหม? ก่อนที่จะจับตาเพิ่มเติมไปที่ "สหรัฐ" ว่าจะมีการเจรจาในสภาคองเกรสเกี่ยวกับ การหาทางระงับการปรับลดงบประมาณโดยอัตโนมัติ (sequestration) ในวันที่ 1 มีนาคมนี้หรือไม่ ถ้ามีการเจรจากัน และสรุปออกมาดีละก็ งานนี้ได้เห็นหุ้นทะยานอีกครั้ง
ส่วนในบ้านเราเองเป็นที่หนาหูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ จะลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งหากเป็นจริง ก็จะส่งผลดีกับ "อสังหาฯ" ซึ่งสัปดาห์ก่อนวิ่งกันตรึมแล้ว แต่ สำหรับภาคธนาคารนั้นการลดดอกเบี้ยไม่ใช่ผลดี เพราะในสภาพความเป็นจริงๆ ขณะนี้แต่ละแบงก์กำลังแข่งขันเพื่อระดมเงินฝาก ทว่าต้องมาลุ้นกันด้วยเม็ดเงินที่มีมากของโลก วันที่หุ้นแบงก์แพนิคอาจจะส่งผลดีกับคนมองยาว ที่จะเป็นจังหวะถือยาวก็ได้
ส่วนใครที่มองว่าแล้วต่างชาติจะหนี แล้วกดหุ้นไทยดิ่งแรงไหม...อันนี้ไม่รู้ ไม่ได้ประทับทรงต่างชาติ แต่ถ้าหนีแบบกดหุ้นดิ่ง ก็น่าจะกดไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อนใช่ไหม แล้วจะเอาอย่างไรดีกับหุ้นสัปดาห์หน้า งานนี้ให้ดูให้ดีว่า หากดัชนีหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 1500 จุดก็ยังยิ้มได้ ส่วนแนวข้างบนดูกันที่ 1530 ก่อน ผ่านไปได้ก็เจอ 1540 นั้นเอง
ด้านนักวิเคราะห์มองหุ้นไทย สัปดาห์หน้าต่างกัน บางคนมองขึ้น บางคนมองลง ที่มองดีก็คือ "วิริยา ลาภพรหมรัตน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ที่มองว่า การประกาศผลประกอบการงวดปี 55 ที่ยังมีบริษัทจดทะเบียนอีกหลายแห่งยังไม่ได้ประกาศผลประกอบการ จะเป็นตัวหนุนทำให้ตลาดปรับขึ้นได้ เช่นเดียวกับ "ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า sentiment ตลาดในสัปดาห์หน้ายังมองในเชิงบวก เพราะตลาดเมื่อวันศุกร์ยังยืนเหนือ 1,520 จุดได้ ในทางกลยุทธ์และทางเทคนิคถือว่า ไปต่อได้
ส่วนที่มองลงก็คือ "ธีรดา ชาญยิ่งยงค์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ด้วยเหตุผลว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมามาก ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังคงมีปัญหาและ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรป ดังนั้น มองว่าหุ้นไทยจึงมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรได้อีก โดยมองตลาดหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,490 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,530 และ 1,550 จุด
วันนี้มีเรื่องทองคำมาพูดคุยกันนิดหลังจากร่วงแรงไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหม จนล่าสุดจวนเจียดจะหลุด 1600 เหรียญต่อทรอยออนซ์แล้ว จากรายงานที่ระบุว่า บรรดากองทุนขนาดใหญ่ เช่น กองทุนโซรอส ฟันด์ แมนเนจเมนต์ และกองทุนมัวร์ แคปปิตอล ได้ทยอยเทขายการถือครองในกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มิน่าล่ะตรุษจีนปีนี้ทองคำเลยร่วงลงมา ดูกันให้ดีจุดที่ 1600-1580 เหรียญต่อทรอยออนซ์ เป็นแนวรับ แต่ถ้าหลุดอีกก็ต้องทำใจโบกมือว่าไปยาว
ส่วนเม้าท์ บจ. คราวนี้ ขอเม้าท์ "หุ้นอสังหา" แระกัน มีพรายมากระซิบบอก BLAND ว่าจะไปได้ยาวววววว หลังเสี่ย "อนันต์ กาญจนพาสน์" เก็บมาโดยตลอด ด้วยพลังของ อิมแพค และที่ดินที่มีมูลค่ามากขึ้น ส่วน NBC มีพรายบอกกันเยอะมากขึ้นให้จับตา จากสตอรี่การประมูลทีวีดิจิตอล ยกระดับเท่าฟรีทีวี ไม่อยากบอกราคาเป้าหมายของ 2 หุ้นนี้ที่ได้ยินมาเพราะมันเวอร์มาก เดี๋ยวไม่จริงจะพลอยติดหุ้นกันอีก แต่ที่เอามาบอก เพื่อให้ลองศึกษาตรองดูเอง
แม้ว่าในภาพรวมทั้งสัปดาห์ ต่างชาติยังจะขายออกอีก 3,940 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นกุมภาพันธ์ยังไม่ถึงเดือนขายออกไปทั้งสิ้น 13,069 ล้านบาท จนกระทั้งยอดซื้อสะสมตั้งแต่ต้นปีเหลือแค่ 1,967 ล้านบาทเท่านั้น เหมือนจะน่าใจหาย แต่ตลาดฟิวเจอร์กลับดูดีขึ้นจากที่ต่างชาติเคยขายแหลกเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1,084 สัญญา แม้จะซื้อเล็กๆ แต่ก็ยังดีที่กลับมาซื้อ ติดตามต่อเนื่องในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ถ้ายังซื้อในส่วนของ ฟิวเจอร์ ก็ยังเป็นเรื่องดี
ฝั่งตลาดหุ้นต่างชาติ ในส่วนของสหรัฐ ดูทรงๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดาวโจนส์ปิดที่ 13981.76 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1519.79 จุด ส่วน Nasdaq ปิดที่ 3192.03 จุด โดยสรุปทั้งสัปดาห์ ดาวโจนส์ และ Nasdaq ติดลบ 0.1 % ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 0.1 % น่ายินดีนะเนี่ยกับ S&P 500 ที่สามารถปรับตัวขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน เพราะครั้งสุดท้ายที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 7 สัปดาห์ติดต่อกัน เกิดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2010 และ มกราคม 2011 นู้นนนน ส่วน ยุโรปก็เริ่มอาการดีขึ้น แต่ก็ยังต้องจับตา เพราะดูเหมือนว่านักลงทุนทั่วโลกจะรอๆ อะไรอยู่ ถ้ารอผลการประชุมกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ G20 ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไร เพราะแค่ร่วมกันประกาศไม่ทำสงครามค่าเงินเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจโลก เชือดเฉือนญี่ปุ่นที่อัดฉีดเงินเล็กๆ แต่ไม่ได้พุ่งเป้าฟันตรงๆ
ที่พอจะมีน้ำหนัก และน่าสนใจก็ต้องพุ่งเป้ากันไปที่ การเลือกตั้งของอิตาลีในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ ว่า คนสร้างหนี้ แบลุสโคนี่จะกลับมาอีกไหม? ก่อนที่จะจับตาเพิ่มเติมไปที่ "สหรัฐ" ว่าจะมีการเจรจาในสภาคองเกรสเกี่ยวกับ การหาทางระงับการปรับลดงบประมาณโดยอัตโนมัติ (sequestration) ในวันที่ 1 มีนาคมนี้หรือไม่ ถ้ามีการเจรจากัน และสรุปออกมาดีละก็ งานนี้ได้เห็นหุ้นทะยานอีกครั้ง
ส่วนในบ้านเราเองเป็นที่หนาหูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ จะลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งหากเป็นจริง ก็จะส่งผลดีกับ "อสังหาฯ" ซึ่งสัปดาห์ก่อนวิ่งกันตรึมแล้ว แต่ สำหรับภาคธนาคารนั้นการลดดอกเบี้ยไม่ใช่ผลดี เพราะในสภาพความเป็นจริงๆ ขณะนี้แต่ละแบงก์กำลังแข่งขันเพื่อระดมเงินฝาก ทว่าต้องมาลุ้นกันด้วยเม็ดเงินที่มีมากของโลก วันที่หุ้นแบงก์แพนิคอาจจะส่งผลดีกับคนมองยาว ที่จะเป็นจังหวะถือยาวก็ได้
ส่วนใครที่มองว่าแล้วต่างชาติจะหนี แล้วกดหุ้นไทยดิ่งแรงไหม...อันนี้ไม่รู้ ไม่ได้ประทับทรงต่างชาติ แต่ถ้าหนีแบบกดหุ้นดิ่ง ก็น่าจะกดไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อนใช่ไหม แล้วจะเอาอย่างไรดีกับหุ้นสัปดาห์หน้า งานนี้ให้ดูให้ดีว่า หากดัชนีหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 1500 จุดก็ยังยิ้มได้ ส่วนแนวข้างบนดูกันที่ 1530 ก่อน ผ่านไปได้ก็เจอ 1540 นั้นเอง
ด้านนักวิเคราะห์มองหุ้นไทย สัปดาห์หน้าต่างกัน บางคนมองขึ้น บางคนมองลง ที่มองดีก็คือ "วิริยา ลาภพรหมรัตน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจหลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน ที่มองว่า การประกาศผลประกอบการงวดปี 55 ที่ยังมีบริษัทจดทะเบียนอีกหลายแห่งยังไม่ได้ประกาศผลประกอบการ จะเป็นตัวหนุนทำให้ตลาดปรับขึ้นได้ เช่นเดียวกับ "ธีรวุฒิ กานต์นิภากุล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า sentiment ตลาดในสัปดาห์หน้ายังมองในเชิงบวก เพราะตลาดเมื่อวันศุกร์ยังยืนเหนือ 1,520 จุดได้ ในทางกลยุทธ์และทางเทคนิคถือว่า ไปต่อได้
ส่วนที่มองลงก็คือ "ธีรดา ชาญยิ่งยงค์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ด้วยเหตุผลว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมามาก ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังคงมีปัญหาและ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรป ดังนั้น มองว่าหุ้นไทยจึงมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรได้อีก โดยมองตลาดหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,490 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,530 และ 1,550 จุด
วันนี้มีเรื่องทองคำมาพูดคุยกันนิดหลังจากร่วงแรงไม่สนหน้าอิฐหน้าพรหม จนล่าสุดจวนเจียดจะหลุด 1600 เหรียญต่อทรอยออนซ์แล้ว จากรายงานที่ระบุว่า บรรดากองทุนขนาดใหญ่ เช่น กองทุนโซรอส ฟันด์ แมนเนจเมนต์ และกองทุนมัวร์ แคปปิตอล ได้ทยอยเทขายการถือครองในกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มิน่าล่ะตรุษจีนปีนี้ทองคำเลยร่วงลงมา ดูกันให้ดีจุดที่ 1600-1580 เหรียญต่อทรอยออนซ์ เป็นแนวรับ แต่ถ้าหลุดอีกก็ต้องทำใจโบกมือว่าไปยาว
ส่วนเม้าท์ บจ. คราวนี้ ขอเม้าท์ "หุ้นอสังหา" แระกัน มีพรายมากระซิบบอก BLAND ว่าจะไปได้ยาวววววว หลังเสี่ย "อนันต์ กาญจนพาสน์" เก็บมาโดยตลอด ด้วยพลังของ อิมแพค และที่ดินที่มีมูลค่ามากขึ้น ส่วน NBC มีพรายบอกกันเยอะมากขึ้นให้จับตา จากสตอรี่การประมูลทีวีดิจิตอล ยกระดับเท่าฟรีทีวี ไม่อยากบอกราคาเป้าหมายของ 2 หุ้นนี้ที่ได้ยินมาเพราะมันเวอร์มาก เดี๋ยวไม่จริงจะพลอยติดหุ้นกันอีก แต่ที่เอามาบอก เพื่อให้ลองศึกษาตรองดูเอง