สำนักงบฯ เปิดยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ “ปู” จับไมค์กล่อม “บิ๊ก ขรก.” แห่ร่วมคึกคัก

สำนักงบฯ จัดประชุมสัมมนาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบนโยบาย เน้นย้ำ 4 ยุทธศาสตร์ภายใต้เศรษฐกิจพอเพียง รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รับบริหารประเทศ 1 ปีมีความท้าทายเพราะปัจจัยภายในและภายนอกไม่นิ่ง ขณะที่ ขรก.ระดับสูงตบเท้าเข้าร่วมคึกคัก

สำนักงบประมาณได้จัดการประชุมสัมมนามอบนโยบายสำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ และการชี้แจงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ โดยภายในงานนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งมีทั้งข้าราชการระดับสูงที่เข้าร่วมการสัมมนาในวันนี้ ซึ่งกำหนดการได้เริ่มอย่างเป็นทางการในเวลา 09.00 น. วันนี้

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวมอบนโยบายสำหรับขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ และชี้แจงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ 4 ยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนประเทศในปี 2557 และรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ประกอบด้วย การสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากการเป็นประเทศรายได้น้อย กลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ยุทธศาสตร์ความเหลื่อมล้ำเพื่อสร้างโอกาสความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ยุทธศาสตร์สร้างความเติบโตบนพื้นฐานคุณภาพชีวิตเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การกำหนดเป้าทั้ง 4 ยุทธศาสตร์จะนำไปสู่การขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีชี้แจงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ซึ่งได้บรรยาย และยอมรับว่า การบริหารราชการกว่า 1 ปีที่ผ่านมามีความท้าทาย เพราะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่ยังไม่นิ่ง ทั้งด้านเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปที่ให้ความสำคัญต่อประชาธิปไตย และความเท่าเทียมของเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่สมดุล และสังคมที่ยังขาดการดูแล แต่ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานที่ร่วมกันบูรณาการทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 48 ของ GDP ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าในปีนี้ GDP ของประเทศจะอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ส่วนเงินเฟ้อขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในสภาวะปกติ คือร้อยละ 3 ซึ่งที่ผ่านมาประเทศขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท แต่วันนี้สามารถรักษาภาวะขาดดุลลดลงอย่างต่อเนื่อง ภาวะการว่างงานลดน้อยลงเพราะมีการปรับยุทธศาสตร์ในพื้นที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวก หนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 43.9 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าหลายประเทศที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน