คลังเล็งชง ครม.อีก 2 สัปดาห์ เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่มีการเสนอรายละเอียดของโครงการลงทุน แต่เป็นเพียงการเสนอกรอบให้ ครม.เห็นชอบในหลักการว่าเป็นโครงการที่ดี หลังจากนั้นจะนำเสนออีกครั้ง ยันจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในอีก 2 สัปดาห์ ให้เห็นชอบหลักการในร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยในขั้นตอนดังกล่าวจะยังไม่มีการเสนอรายละเอียดของโครงการลงทุน แต่เป็นเพียงการเสนอกรอบให้ ครม.เห็นชอบในหลักการว่าเป็นโครงการที่ดี หลังจากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้ง โดยจะเสนอโครงการลงทุนเป็นบัญชีแนบท้ายก่อนจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยังคงเน้นการลงทุนในระบบราง และน้ำ ส่วนทางถนนจะยังมีอยู่ แต่จะเน้นการลงทุนเพื่อการขยายขนาด ไม่ใช่การลงทุนเพื่อขยายเส้นทางใหม่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการประหยัดต้นทุนด้านขนส่ง ขณะที่การลงทุนระบบรางจะเป็นรถไฟความเร็วสูงเพื่อการขนส่งผู้โดยสารใน 4 เส้นทางหลัก คือ ภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคตะวันออก และภาคใต้
“การเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ อาจได้รับการยืนยันในบัญชีรายชื่อโครงการ ซึ่งจะมีบัญชีรายการส่วนเพิ่มเติม หากโครงการในบัญชีหลักไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒน์ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม หรือคณะรัฐมนตรี หวังว่าจะผ่านการพิจารณาจาก ครม.ภายใน ม.ค.หรือต้น ก.พ. เป็นการสะท้อนถึงความพร้อมของไทยในการลงทุน ซึ่งหากดำเนินการได้ตามขั้นตอน จะทำให้ไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง” นายกิตติรัตน์ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ยังได้แสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ยุทธศาสตร์ไทยใน AEC” ในงานสัมมนา “AEC Forum 2013 : พลังเศรษฐกิจ AEC สู่การเป็นเมืองหลวงแห่งอาเซียน” โดยบอกว่า ไทยได้มีการวาง 8 ยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมการเป็นสมาชิกที่ดี ขณะเดียวกัน การวางเป้าหมายให้ไทยเป็นเมืองหลวงแห่งอาเซียน ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การมีทัศนคติการทำตัวให้เข้มแข็ง มีศักยภาพ และมีประสิทธิภาพ มีการเตรียมบุคลากรเพื่อให้เข้าใจถึงการเป็น AEC มีการกระจายความมั่งคั่ง ความมั่งมี ไม่ใช่เฉพาะใน กทม.เท่านั้น
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมทางด้านภูมิศาสตร์ที่จะสามารถเชื่อมโยงอาเซียนได้ โดยไทยมีจุดเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน มีทรัพยากรต่างๆ ดังนั้น หากมีความร่วมมือกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความเจริญร่วมกันจะทำให้ไทยเป็นทางเลือกของการเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียน โดยจะต้องทำให้ภายในประเทศมีความสมบูรณ์ และมีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น
“ขอให้มั่นใจว่าไทยพร้อมที่จะอาสาเป็นจุดเชื่อมต่ออาเซียน จีน ตลอดจนลาว เวียดนาม กัมพูชา รวมถึงเราพร้อมที่จะทำให้เชื่อมโยงไปถึงมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดเหล่านี้ต้องอาศัยภาคเอกชน โดยที่ภาครัฐพร้อมให้ความมั่นใจที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อ”
พร้อมระบุว่า ไทยอยู่ระหว่างการลงทุนในระบบน้ำ และระบบราง เพื่อให้สามารถประหยัดต้นทุนด้านขนส่ง เพราะที่ผ่านมา ไทยไม่ได้มีการวางแผนการพัฒนาในด้านดังกล่าว ดังนั้น การเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ถือเป็นโจทย์สำคัญ และการที่รัฐบาลไม่ได้ตั้งงบลงทุนไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี เนื่องจากในงบประจำปีมีการแสดงงบรายจ่ายเป็นเป้าหมายประจำปีอยู่แล้ว แต่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้งบประมาณต่อเนื่องอีกหลายปี
นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องการให้เห็นว่าการที่ตั้งงบประมาณแบบขาดดุลไม่ใช่ปัญหาของประเทศ เพราะรัฐบาลได้วางเป้าหมายที่จะลดการขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 ที่อยู่ระหว่างการจัดทำนั้นจะเป็นงบขาดดุลราว 2 แสนล้านบาท ส่วนหนี้สาธารณะอยู่ในระดับต่ำ สามารถรองรับการลงทุนภายใต้กรอบการลงทุนในระยะ 7 ปี ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ