xs
xsm
sm
md
lg

“โอฬาร” ชี้บาทแข็งยังไม่กระทบส่งออก นายแบงก์ยันทุนไหลเข้าไม่เกิดฟองสบู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โอฬาร” ชี้ค่าเงินบาทแข็งหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์ยังไม่กระทบส่งออก ธปท.ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการสกัด ขณะที่นายแบงก์มองเงินทุนไหลเข้ายังไม่ก่อฟองสบู่ ศก.ไทย มั่นใจ ธปท.ดูแลได้

นายโอฬาร ไชยประวัติ ประธานผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมองว่าเป็นปัจจัยการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศที่มีมากขึ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม มองว่ายังไม่กระทบภาพรวมการส่งออกของไทยในปีนี้ เพราะค่าเงินบาทยังไม่แข็งค่ามากเกินไป

ขณะเดียวกับผู้ส่งออกยังไม่มีปฏิกิริยาในเรื่องนี้ ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการสกัดเงินทุนไหลเข้าในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินบาทยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาความเหมาะสมของกรอบค่าเงินบาทที่กำหนดไว้ว่าไม่ควรเกิน 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหรือไม่ เพราะหากไม่ต้องการเห็นการแข็งค่าของค่าบาทไปมากกว่านี้ก็อาจจะต้องพิจารณาปรับกรอบค่าเงินบาทใหม่

ด้านนายปรีดี ดาวฉาย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติในขณะนี้ โดยมองว่าอาจทำให้มีสภาพคล่องในระบบมากขึ้นและส่งผลต่อการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้นจริง แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดฟองสบู่ขึ้นเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังดูแลได้ดีอยู่

นอกจากนี้ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในขณะนี้เป็นนักลงทุนที่มีความรู้มากขึ้น ในส่วนของการให้สินเชื่อของธนาคารในปีนี้จะเติบโตในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ขยายตัว 9-11% โดยเป็นการขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่ประมาณ 4-6% และสินเชื่อเอสเอ็มอีเติบโต 10-12% ขณะที่สินเชื่อรายย่อยคาดว่าจะโต 10-13% ส่วนการขยายตัวของสินเชื่อในปีที่ผ่านมายังเป็นไปตามวิสัยที่ธนาคารวางไว้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธนาคารมีการประเมินความเสี่ยงอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตมากเกินไปหรืออยู่ในภาวะเสี่ยง ซึ่งในขณะนี้ที่เห็นชัดเจนคืออุตสาหกรรมที่ใช้แรงงาน เพราะมีปัญหาทั้งการขาดแคลนแรงงานและแรงงานไร้ฝีมือ โดยเฉพาะการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทกำลังเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม

ขณะที่ผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทนั้นผู้ประกอบการสามารถซื้อเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ได้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยธนาคารตั้งเป้าควบคุมเอ็นพีแอลไว้ที่ระดับ 2.4%


กำลังโหลดความคิดเห็น