ซีไอเอ็มบีไทยเปิดแผนปีหน้ายืนเป้าสินเชื่อโต 20-30% เน้นรายใหญ่-รายย่อย พร้อมยึนแนวคิดธนาคารอาเซียนเป็นตัวเชื่อมการลงทุนทั้งด้านขาเข้า-ขาออก เผยยังไม่มีแผนเพิ่มทุนเงินกองทุนเพียงพอปล่อยกู้-รับบาเซิล3
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปี 55 นี้ คาดว่าจะเติบโตได้ 15-20% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 20-30% เป็นผลมาจากสินเชื่อขนาดใหญ่ และรายย่อยต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีเป็นไปตามเป้าหมาย
“สินเชื่อรายใหญ่ที่ต่ำกว่าเป้าเป็นเพราะช่วงต้นปีมีการคืนเงินกู้มาส่วนหนึ่ง ส่วนสินเชื่อรายย่อยนั้น จะต่ำกว่าเป้าในส่วนของสินเชื่อที่ไม่มีหลักค้ำประกัน ซึ่งเป็นส่วนที่ธนาคารชะลอไว้ รอระบบพัฒนาระบบรองรับ ขณะที่สินเชื่อบ้าน และเช่าซื้อเติบโตได้ดี”
สำหรับในปี 2556 ธนาคารยังคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโตที่ 20-30% โดยเน้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะได้รับผลดีจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวได้ดี พร้อมกันนั้น ธนาคารจะหันมาขยายสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเช่าซื้อ รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งธนาคารได้พัฒนาระบบเรียบร้อยแล้ว จึงมีความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารยังเน้นด้านวาณิชธนกิจซึ่งทางกลุ่มซีไอเอ็มบีมีความชำนาญ และมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งด้วย โดยในปีหน้าตั้งเป้าเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 40-60% และรายได้ดอกเบี้ยเติบโต 25-30% จากการรุกตลาดสินเชื่อรายย่อยมากขึ้น
ด้านเงินฝากในปี 55 มีอัตราการเติบโต ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ 22.4% จากเป้าหมายที่ตั้ง 20-32% และในปีหน้าตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 25-35% โดยจะเน้นเงินฝากที่ต้นทุนต่ำ (CASA) เพื่อเป็นการบริหารต้นทุน โดยตั้งเป้าส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปีหน้าไว้ที่ 3.3-3.6% จากปีนี้ที่อยู่ในระดับ 3.2% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ 3.63%
ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สิ้นปี 55 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5% เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้เร่งการปรับโครงสร้างหนี้ และในปี 56 ธนาคารตั้งเป้าลด NPLให้ต่ำกว่า 3.4%
เผยยังไม่มีแผนเพิ่มทุนเร็วๆ นี้
นายสุภัค กล่าวอีกว่า ในช่วงระยะเวลาเร็วๆ นี้ ธนาคารยังไม่แผนที่จะเพิ่มทุน โดยเงินกองทุนปัจจุบันยังมีเพียงพอรองรับการดำเนินธุรกิจของธนาคารได้อีกระยะหนึ่ง พร้อมกันนั้น ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเตรียมดำเนินการตามมาตรฐานกำกับดูแลบาเซิล 3 ไว้แล้ว และเชื่อว่า การใช้เกณฑ์ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบรุนแรงอย่างที่คาดกัน
ทั้งนี้ กลยุทธ์ของธนาคารในปี 56 ยังคงใช้เครือข่ายความเป็นธนาคารอาเซียนที่แข็งแกร่งของกลุ่มในการนำนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ และเชื่อมโยงนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ มาลงทุนในไทย รวมถึงการรวมตัวของประเทศนอกกลุ่มอาเซียน ทั้งออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งยังมองประเทศในอาเซียนน่าลงทุน
ขณะเดียวกัน ธนาคารจะหันมาปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการ หลังจากปีนี้ได้มีการปรับปรุงระบบไอทีแล้ว ทั้งในส่วนของลูกค้ารายย่อย ผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริการใหม่ๆ ส่วนกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จะมีการเชื่อมโยงภายในอาเซียน เพื่อเป็นผู้นำนวัตกรรม ตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วย