"เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค" เปิดเทรดวันแรกราคาหุ้นซิลลิ่ง 200% ด้านผู้บริหาร ปลื้มราคาหุ้นแรงเกินคาดจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้าลงทุนจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นวันแรกของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ โดยเปิดตลาดที่ราคาปรับตัวสูงสุดชนเพดาน (ซิลลิ่ง) ระดับ 12 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาทต่อหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 200% จากราคาจองที่ระดับ 4 บาทต่อหุ้น ระหว่างปรับตัวลดลงที่ระดับ 10.60 บาทต่อหุ้น และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 12 บาท เช่นเดียวกับราคาเปิดเมื่อช่วงเช้า และถือเป็นราคาที่หุ้นมีการปรับตัวสูงสุด โดยมีมูลค่าซื้อขาย 1,424.58 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อตหุ้น JMT 1 รายการ จำนวน 2 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 8 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ย 4.00 บาท/หุ้น
นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ราคาซื้อขายวันแรกของปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตนคาดการณ์ไว้ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นชนเพดาน (ซิลลิ่ง) 200% ซึ่งส่วนตัวมองว่าเกิดจากนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจากที่ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ดี และมีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ที่สูงถึง 50% และบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดีทำให้สถาบันการเงินมีการขายหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง และบริษัทเชื่อว่าหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วเชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือ ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ มีการขายหนี้ให้แก่บริษัทมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะมีการซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และบริษัทมีแผนที่จะปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์มือสองให้แก่บุคคลที่ติดเครดิตบูโร (แบล็กลิสต์) ที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ปีหน้าเพิ่มเป็น 300 คัน จากปีนี้ 200 คัน โดยปล่อยอัตราดอกเบี้ยที่ 5.9-6% ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการปีหน้าบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 390 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปี 56 คาดว่าจะโต 30%
“”ปัจจุบับริษัทมีหนี้บริหารอยู่ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มีการแข่งในเรื่องการปล่อยสินเชื่อรายย่อยจำนวนมาก ซึ่งปีหน้า บริษัทจะมีการซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งใช้เงินลงทุนซื้อนี้จำนวน 500 ล้านบาท โดยราคาหุ้นเทรดวันแรกยอมรับสูงกว่าที่ตนคาดไว้” นายปิยะกล่าว
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นของ JMT ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เนื่องจากการประกอบธุรกิจของ JMT นั้นไม่เหมือนใคร และไม่มีคู่แข่ง จากที่ประกอบธุรกิจบริหารหนี้สินเชื่อรายย่อยเพียงรายเดียว และมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้มีมาร์จิ้นที่สูง ประกอบกับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้นั้นมีการกระจายหหุ้นไม่มากเพียง 30 ล้านหุ้น จึงทำให้นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก
