xs
xsm
sm
md
lg

สัญญาณแนวโน้มธุรกิจธนาคารแข่งดุ แนะเพิ่มประสิทธิภาพทั้งสินทรัพย์ และหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์วิจัยกสิกร ประเมินสัญญาณแนวโน้มธุรกิจธนาคาร ปี 56 การแข่งขันที่รุนแรงจากสินเชื่อ และเงินฝาก คาดดอกเบี้ยสุทธิปีนี้จะทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อยอยู่ในกรอบ 3.05-3.11% แนะปรับประสิทธิภาพการบริหารทรัพย์สิน และหนี้

รายงานข่าวจากบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด แจ้งว่า แนวโน้มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปี 2556 ให้จับตาการประคองความสามารถในการทำกำไร ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ปี 2556 อาจทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง หลังจากภาพรวมปี 2555 ลดลงจากปีก่อนหน้า 10 จุด หรือจาก 3.21% มาอยู่ที่ 3.11% เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลต่อรายได้ดอกเบี้ยรับ ประกอบกับมีการแข่งขันที่สูงในระบบ

สำหรับปี 2556 มีภาวะเศรษฐกิจที่น่าจะรักษาแรงส่งของการเติบโต เชื่อว่าจะยังมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่า 10% ต่อเป็นปีที่ 4 แต่จากการแข่งขันที่รุนแรงทั้งด้านสินเชื่อ และเงินฝาก อาจทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตสินเชื่อเชิงปริมาณอย่างเต็มที่ จึงคาดว่าส่วนดอกเบี้ยสุทธิปีนี้จะทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อยอยู่ในกรอบ 3.05-3.11% ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพย์สิน และหนี้สิน เน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น รายย่อย และจัดการต้นทุนเงินฝากให้อยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ เพื่อให้ความสามารถในการทำกำไรเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือใกล้เคียงปีก่อน คาดว่าธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งคงต้องปรับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์ และหนี้สิน ซึ่งนอกเหนือไปจากการเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ตสินเชื่อรายย่อยโดยรวม ด้วยการเพิ่มส่วนผสมของสินเชื่อที่ให้ได้รับผลตอบแทน เช่น สินเชื่อรายย่อยก็ต้องเน้นย้ำการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝากให้อยู่ในระดับต่ำ แต่พอที่จะแข่งขันได้ ซึ่งอาจจะออกมาในรูปการเพิ่มน้ำหนักให้แก่เงินฝากกกระแสรายวัน และเงินฝากออมทรัพย์ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่มีการกระจายตัวของประเภทสินเชื่อที่ค่อนข้างหลากหลาย รวมทั้งการใช้กลยุทธ์การนำเสนอเงินฝากพิเศษเพื่อดึงเงินฝากเฉพาะในช่วงที่ต้องการ หรือเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การผลักดันผลประกอบการในภาพรวม คงต้องเร่งโตรายได้ค่าธรรมเนียม เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีข้อจำกัดขึ้น ซึ่งในปี 2556 ประมาณการว่า รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ จะเติบโตประมาณ 10-15% เทียบกับประมาณการปี 2555 ที่น่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% โดยค่าธรรมเนียมจะมาจากผลิตภัณฑ์การเงิน เช่น ประกันภัย/ประกันชีวิต ธุรกรรมผ่านบัตร และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ การรับชำระเงิน

นอกจากนี้ ยังมีโจทย์สำคัญคือ คุณภาพสินทรัพย์ ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสูงมากในปี 2555 จึงทำให้ต้องจับตาทิศทางเศรษฐกิจในปี 2556 ซึ่งหากปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจที่ปรากฏขึ้นระหว่างทางในปี 2556 เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับโครงสร้างพลังงาน และขึ้นค่าเอฟที รวมทั้งปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น อาจมีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยเฉพาะสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อ
กำลังโหลดความคิดเห็น