xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์ออกมาตรการควบคุมฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

         เช้าวันจันทร์ที่ 14 มกราคม  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 1%  นำโดยหุ้นกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย   แคปปิตอล แลนด์ ปรับตัวลดลง 5.7%  ซิตี้ ดีเวล็อป เมนต์  ลดลง 7.1% หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์  ได้ออกมาตรการครั้งใหญ่เพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดที่อยู่อาศัย แม้เศรษฐกิจชะลอตัว

         OCBC Investment Research เตือนมิให้ซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในช่วงขาลง ขณะที่มาตรการชะลอความร้อนแรงรอบล่าสุดอาจจะมีผลในเชิงลึกในระยะยาวต่อปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์
"มาตรการเหล่านี้บ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นแรงกล้าของรัฐบาลเพื่อชะลอราคาอสังหาริมทรัพย์ และอาจจะมีมาตรการแบบเชิงรุกมากกกว่านี้ออกมาในอนาคต" บริษัทระบุ ผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์
รอยเตอร์ยังรายต่อว่า  รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศขึ้นภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการใหม่ในการลดความร้อนแรงในตลาด หลังจากอุปสงค์ดังกล่าวอยู่ในภาวะแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจสิงคโปร์อยู่ในภาวะอ่อนแอ และรัฐบาลเคยดำเนินความพยายามจำกัดราคาบ้านมาแล้วในช่วงก่อนหน้านี้
กฎใหม่ระบุว่า ชาวต่างชาติและภาคเอกชนที่ซื้อที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์จะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์สำหรับผู้ซื้อบ้านเพิ่มเติม (ABSD) ในอัตรา 15 %ของราคาซื้อ โดยเพิ่มขึ้นจากอัตรา 10 % ในปัจจุบัน
สิงคโปร์ได้ประกาศจัดเก็บอากรแสตมป์สำหรับผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ด้วยซึ่งจะจัดเก็บในอัตรา 5-15 % และถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดเก็บภาษีจากผู้ขายโดยจะจัดเก็บภาษีดังกล่าวจากผู้ที่ซื้อและขายต่ออสังหาริมทรัพย์ภาคอุตสาหกรรมเช่น โกดังและโรงงาน ภายในเวลา 3 ปี
นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังระบุว่า ชาวสิงคโปร์ที่ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 จะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์ ABSD ในอัตรา 7 % ส่วนผู้ที่มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในสิงคโปร์จะต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์ 5 % ในการซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก
ก่อนหน้านี้สิงคโปร์เคยเรียกเก็บ ABSD จากชาวสิงคโปร์ที่ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่ 3 และจากผู้อยู่อาศัยถาวรที่ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2
 นอกเหนือจากการจ่ายค่า ABSD เพิ่มเติมแล้ว ผู้ที่สมัครขอสินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่ 2 หรือมากกว่านั้น ยังจำเป็นต้องจ่ายเงินดาวน์ขั้นต่ำ 25 %ด้วย โดยเพิ่มขึ้นจากอัตรา 10 % ในช่วงก่อนหน้านี้
รัฐบาลสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ว่า ชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่ที่ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งแรกจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้ และจะมีการลดหย่อนบางประการให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยบางกลุ่ม เช่น คู่สมรสที่เป็นชาวสิงคโปร์อย่างน้อย 1 คนที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ตราบใดที่คู่สมรสดังกล่าวตั้งใจจะขายที่อยู่อาศัยแห่งแรก
รัฐบาลระบุว่า มาตรการใหม่นี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และจะมีการทบทวนในอนาคตโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตลาด
ทั้งนี้ รัฐบาลหลายประเทศในเอเชียพยายามลดความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ ในขณะที่กระแสเงินทุนที่หลั่งไหลเข้ามาจากชาติตะวันตกส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยและกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้ทะยานขึ้น
หนังสือพิมพ์ของทางการจีนระบุในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนจำเป็นต้องคุมเข้มการใช้นโยบายที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นการจำกัดราคาอสังหาริมทรัพย์
ราคาบ้านส่วนตัวในสิงคโปร์พุ่งขึ้น 1.8 % ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 หลังจากปรับตัวขึ้น 0.6 % ในไตรมาส 3 ถึงแม้รัฐบาลสิงคโปร์ดำเนินความพยายามควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเดือนต.ค. โดยใช้วิธีจำกัดระยะเวลาสูงสุดในการปล่อยกู้ในภาคที่อยู่อาศัย
ราคาขายต่ออพาร์ทเมนท์ HDB ที่สร้างโดยรัฐบาลสิงคโปร์พุ่งขึ้น  2.5 % ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส ขณะที่ชาวสิงคโปร์ราว 80 % อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ดังกล่าว
ราคาอสังหาริมทรัพย์ในภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับที่สูงเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อน
นายธาร์มาน ชานมุการัตนัม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า "อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับต่ำมากในขณะนี้ทั้งในตลาดโลกและในสิงคโปร์ และจะยังคงกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเราต่อไป ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการครั้งใหม่ในขณะนี้เพื่อควบคุมแนวโน้มในตลาดปัจจุบัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการปรับฐานอย่างรุนแรงของราคาในอนาคต"
อัตราดอกเบี้ยในสิงคโปร์ร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์โดยธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 % ต่อปีจากสินเชื่อในภาคที่อยู่อาศัย
(ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์)
 
T.Thammasak.
กำลังโหลดความคิดเห็น