กาญจนบุรี - กลุ่มค้านถนนผ่าเมืองกาญจน์ให้ข้อมูล กมธ.วุฒิสภา แฉถนนสาย ก. ข.และ ค.ทำลายวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม การดำเนินโครงการไม่โปร่งใส และหมกเม็ด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบการคัดค้านกรมทางหลวงชนบทดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ก. ข. และ ค.โดยมีแนวถนนผ่าพื้นที่ชุมชนเมืองในบริเวณ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ต.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ ต.บ้านใต้ ต.บ้านยาง อ.เมืองกาญจนบุรี ว่า วันนี้ (27 ส.ค.) นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ แกนนำกลุ่มคัดค้านการสร้างถนนผ่าเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงการเดินทางให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ตนและชาวบ้านที่ได้รับลผกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนสาย ก.ข.และ ค.ผังเมืองรวมกาญจนบุรีได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลต่อนายบุญส่ง โควาวิสารัช ส.ว.แม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา โดยมีนายครุ แสงฉาย รองธิบดีกรมทางหลวงชนบทเป็นตัวแทนเข้าชี้แจงข้อมูลเช่นกัน
นางภินันท์ กล่าวต่อว่า การเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผู้ได้รับผลกระทบ โดยชาวบ้านต่างให้ข้อมูลว่า การดำเนินโครงการไม่โปร่งใส และหมกเม็ด ซึ่งรองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทได้ให้ข้อมูลว่า เป็นการดำเนินการเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.55 นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ทำหนังสือขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าสำรวจออกแบบเวนคืนที่ดิน และค่าก่อสร้างถนนสายผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี มายังอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ซึ่งการดำเนินการโครงการคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน มีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนในท้องที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง และ ต.ปากแพรก ต.บ้านใต้ ต.บ้านเหนือ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 10 ก.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งในการชี้แจงของผู้แทนกรมทางหลวงชนบทในครั้งนี้ถือว่าเป็นทางการ และชาวบ้านที่เข้าร่วมให้ข้อมูลเพิ่งได้รับข้อมูลสำคัญของการเริ่มโครงการนี้
นางภินันท์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมชาวบ้านได้ให้ข้อมูลจริงในพื้นที่ และผลกระทบจากโครงการนี้ต่อคณะกรรมาธิการเพื่อชี้ให้เห็นว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่กรมทางหลวงชนบทพิจารณาด้วยข้อมูลไม่รอบด้าน ซึ่งขณะนี้ โครงการนี้กำลังส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และชุมชนดั้งเดิมเดือดร้อนมาก ซึ่งชาวบ้านก็พอใจในการเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้ และอยากให้คณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่เพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นจะได้มีข้อแนะนำให้แก่กรมทางหลวงชนบทในการพิจารณาว่าดำเนินการอย่างไรต่ออีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบการคัดค้านกรมทางหลวงชนบทดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ก. ข. และ ค.โดยมีแนวถนนผ่าพื้นที่ชุมชนเมืองในบริเวณ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ต.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ ต.บ้านใต้ ต.บ้านยาง อ.เมืองกาญจนบุรี ว่า วันนี้ (27 ส.ค.) นางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ แกนนำกลุ่มคัดค้านการสร้างถนนผ่าเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงการเดินทางให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภาว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ตนและชาวบ้านที่ได้รับลผกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนสาย ก.ข.และ ค.ผังเมืองรวมกาญจนบุรีได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลต่อนายบุญส่ง โควาวิสารัช ส.ว.แม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา โดยมีนายครุ แสงฉาย รองธิบดีกรมทางหลวงชนบทเป็นตัวแทนเข้าชี้แจงข้อมูลเช่นกัน
นางภินันท์ กล่าวต่อว่า การเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผู้ได้รับผลกระทบ โดยชาวบ้านต่างให้ข้อมูลว่า การดำเนินโครงการไม่โปร่งใส และหมกเม็ด ซึ่งรองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทได้ให้ข้อมูลว่า เป็นการดำเนินการเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.55 นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ทำหนังสือขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าสำรวจออกแบบเวนคืนที่ดิน และค่าก่อสร้างถนนสายผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี มายังอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ซึ่งการดำเนินการโครงการคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน มีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนในท้องที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง และ ต.ปากแพรก ต.บ้านใต้ ต.บ้านเหนือ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 10 ก.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งในการชี้แจงของผู้แทนกรมทางหลวงชนบทในครั้งนี้ถือว่าเป็นทางการ และชาวบ้านที่เข้าร่วมให้ข้อมูลเพิ่งได้รับข้อมูลสำคัญของการเริ่มโครงการนี้
นางภินันท์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมชาวบ้านได้ให้ข้อมูลจริงในพื้นที่ และผลกระทบจากโครงการนี้ต่อคณะกรรมาธิการเพื่อชี้ให้เห็นว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่กรมทางหลวงชนบทพิจารณาด้วยข้อมูลไม่รอบด้าน ซึ่งขณะนี้ โครงการนี้กำลังส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และชุมชนดั้งเดิมเดือดร้อนมาก ซึ่งชาวบ้านก็พอใจในการเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้ และอยากให้คณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่เพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นจะได้มีข้อแนะนำให้แก่กรมทางหลวงชนบทในการพิจารณาว่าดำเนินการอย่างไรต่ออีกด้วย
