กาญจนบุรี - กลุ่มค้านถนนผ่าเมืองกาญจน์ ถนนสาย ก. ข. และ ค. แฉกรมทางหลวงชนบทไม่มีความโปร่งใส และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ประกาศเดินหน้าคัดค้านต่อเนื่อง และพร้อมยกระดับการคัดค้าน เคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิต่อไป
ความคืบการคัดค้านกรมทางหลวงชนบทดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ก. ข. และ ค.โดยมีแนวถนนผ่าพื้นที่ชุมชนเมืองในบริเวณ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ต.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ ต.บ้านใต้ ต.บ้านยาง อ.เมืองกาญจนบุรี โดยวันนี้ (21 ส.ค.) นางภูวนีย์ ทับมะลิผล แกนนำชาวบ้านที่คัดคัดค้านโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.ค.55 ได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง และ ต.ปากแพรก ต.บ้านใต้ ต.บ้านเหนือ ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดยข้อความที่กำหนดชื่อเส้นทางแนวเวนคืนถนนได้เปลี่ยนจากเส้นทางถนนสาย ก. ข.และ ค.เปลี่ยนข้อความเป็นการกำหนดข้อความในมาตรา 4 ที่กำหนดวัตถุประสงค์เป็นการสร้าง และขยายเส้นทางเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 (ตอนเลี่ยงเมือง) กับถนนแสงชูโต ซอย 55 รวมทั้งถนนต่อเชื่อม และเพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 (ตอนเลี่ยงเมือง ) กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3305 จึงทำให้กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนสาย ก. ข. และ ค.ที่ดำเนินโครงการโดยกรมทางหลวงชนบทมีมากขึ้น
นางภูวนีย์ กล่าวต่อว่า ล่าสุด นายอภินันท์ จีรชัยกิตติ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงชนบทที่ 14 (สุพรรณบุรี) ได้มีหนังสือที่ คค. 0728/2473 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2555 เรื่อง การชี้แจงความเป็นมาของโครงการเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ถูกเวนคืน โครงการก่อสร้างถนนสาย ก.และ ค. ผังเมืองรวมเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ถึงเจ้าของ หรือผู้ครอบครองทรัพย์สิน
โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่กรมทางหลวงชนบทจัดการประชุมเพื่อชี้แจงการเวนคืนในครั้งนี้ที่มีผลกระทบกับทรัพย์สินของเจ้าของ หรือผู้ครอบครองทรัพย์สิน ให้ได้รับทราบรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเวนคืน รวมทั้งสิทธิและหน้าที่ตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 โดยจัดขึ้นในวันพุธที่ 29 ส.ค.2555 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องออร์คิด โรงแรมราชศุภมิตร อ.เมืองกาญจนบุรี ตนในฐานะแกนนำคัดค้านโครงการได้ประชุมผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างยืนยันว่า กรมทางหลวงชนบทยังคงเดินหน้าในการเวนคืนที่ดิน และทรัพย์สิน แต่มีประเด็นที่หมกเม็ด คือ อ้างทำโครงการแค่ถนน 2 สาย คือ สาย ก.และ ค. แต่ประกาศเวนคืนที่ดินในแนวถนน 3 สาย คือ สาย ก. สาย ข. และสาย ค. สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการปกปิดข้อมูลต่อประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย
ดังนั้น จึงมองว่าการปฏิบัติหน้าที่ของกรมทางหลวงชนบทไม่มีความโปร่งใส และไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น การคัดค้านโครงการนี้จึงจำเป็นต้องมีการยกระดับการคัดค้านที่กลุ่มคัดค้านจะมีการประชุมหาแนวทางในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิต่อไป