ซีพีเอฟจ่อเพิ่มจุดขายไก่ทอดและไก่ย่างห้าดาวในอินเดียเป็น 500 จุดจากปีนี้ 50 จุดใน 5 ปีข้างหน้า หลังตั้งโรงงานหมักไก่ทอดที่บังกาลอร์ ดันรายได้ธุรกิจอาหารเพิ่มเป็น 25% ของรายได้รวม
แหล่งข่าวบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำแผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้าเพื่อขยายธุรกิจในประเทศอินเดีย โดยจะเพิ่มจุดขายไก่ย่างห้าดาวให้ครบ 500 จุดจาก 50 จุดในปีนี้ และเป็นผู้นำในการผลิตไก่สดและเป็นผู้ผลิตรายใหญ่หนึ่งในสาม โดยจะเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบป้อนให้โกลบอลฟาสต์ฟูดส์เชน โดยเฉพาะเคเอฟซี, แมคโดนัลล์ และซับเวย์ และเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ซีพี ส่งผลให้รายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้ามาจากธุรกิจอาหาร 25% ของรายได้รวม จากเดิมที่รายได้หลักมาจากธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์ม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดโรงงานหมักไก่ทอดห้าดาวขึ้นที่เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย เพื่อพัฒนาไก่สูตรพิเศษทั้งไก่ทอดและไก่ย่างเพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคในเรื่องรสชาติของคนอินเดีย ซึ่งโรงงานดังกล่าวเปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ในเบื้องต้นโรงงานแห่งนี้จะทำการหมักไก่สูตรไก่ทอดก่อนและจะหมักไก่ย่างในอนาคต สำหรับเงินลงทุนสำหรับจุดขายไก่ทอดประมาณ 1 แสนบาทต่อจุด และจุดขายไก่ย่างประมาณ 1.80 แสนบาทต่อจุด
นายซานจีฟ แพนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อินเดีย จำกัด กล่าวว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้เปิดตลาดสินค้าไก่ย่างห้าดาวที่เมืองบังกาลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองธุรกิจสำคัญของอินเดีย โดยเตรียมแผนเพิ่มจุดขายในบังกาลอร์เป็น 50 จุดภายในปีนี้ และอีก 50 จุดในปีหน้าเพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งความนิยมบริโภคสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น
ทั้งนี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าเพิ่มจุดขายให้ครบ 500 จุดภายใน 5 ปีครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ไฮเดอราบัด มุมไบ และเมืองหลวงเดลี เนื่องจากเมืองดังกล่าวมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และแต่ละเมืองมีประชากรจำนวนมาก ซึ่งแต่ละเมืองมีโอกาสที่จะเปิดจุดขายได้ 100-150 จุด บริษัทฯ ตั้งงบประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อปีเพื่อสนับสนุนแผนส่งเสริมการตลาด
“ในเบื้องต้นบริษัทฯ ต้องการให้แบรด์สินค้าติดตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจต่อไปอีก โดยเฉพาะการขยายไปสู่ฟูดคอร์ต ซึ่งขณะนี้มีจุดขายและฟูดคอร์ตแล้ว 4 แห่งในบังกาลอร์” นายซานจีฟกล่าว
ธุรกิจร้านอาหารแบบฟาสต์ฟูดเชนในอินเดีย เช่น เคเอฟซี, แมคโดนัลล์ และซับเวย์ เติบโตอย่างรวดเร็วโดยรวมปีละประมาณ 20-30% เนื่องจากจำนวนประชากรของอินเดียกว่า 60% อายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งนิยมบริโภคอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) และแนวโน้มประชากรจะหันมาบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น โดยวางกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งเรื่องรสชาติ แบรนด์ และราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งขณะนี้ราคาไก่ทอดห้าดาวต่ำกว่าคู่แข่ง 50%
ปัจจุบันซีพีเอฟดำเนินธุรกิจในอินเดีย ประกอบด้วยโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์ม ซึ่งเป็นการลงทุนมากว่า 15 ปีแล้ว โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานอาหารสัตว์ในอินเดีย 7-8 แห่ง ตามแผนพัฒนาธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ รายได้จากธุรกิจอาหารจะมีสัดส่วนเป็น 25% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์ม
แหล่งข่าวบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำแผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้าเพื่อขยายธุรกิจในประเทศอินเดีย โดยจะเพิ่มจุดขายไก่ย่างห้าดาวให้ครบ 500 จุดจาก 50 จุดในปีนี้ และเป็นผู้นำในการผลิตไก่สดและเป็นผู้ผลิตรายใหญ่หนึ่งในสาม โดยจะเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบป้อนให้โกลบอลฟาสต์ฟูดส์เชน โดยเฉพาะเคเอฟซี, แมคโดนัลล์ และซับเวย์ และเป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ซีพี ส่งผลให้รายได้ในอีก 5 ปีข้างหน้ามาจากธุรกิจอาหาร 25% ของรายได้รวม จากเดิมที่รายได้หลักมาจากธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์ม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดโรงงานหมักไก่ทอดห้าดาวขึ้นที่เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย เพื่อพัฒนาไก่สูตรพิเศษทั้งไก่ทอดและไก่ย่างเพื่อรองรับพฤติกรรมการบริโภคในเรื่องรสชาติของคนอินเดีย ซึ่งโรงงานดังกล่าวเปิดดำเนินการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ในเบื้องต้นโรงงานแห่งนี้จะทำการหมักไก่สูตรไก่ทอดก่อนและจะหมักไก่ย่างในอนาคต สำหรับเงินลงทุนสำหรับจุดขายไก่ทอดประมาณ 1 แสนบาทต่อจุด และจุดขายไก่ย่างประมาณ 1.80 แสนบาทต่อจุด
นายซานจีฟ แพนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อินเดีย จำกัด กล่าวว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้เปิดตลาดสินค้าไก่ย่างห้าดาวที่เมืองบังกาลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองธุรกิจสำคัญของอินเดีย โดยเตรียมแผนเพิ่มจุดขายในบังกาลอร์เป็น 50 จุดภายในปีนี้ และอีก 50 จุดในปีหน้าเพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งความนิยมบริโภคสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น
ทั้งนี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าเพิ่มจุดขายให้ครบ 500 จุดภายใน 5 ปีครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ไฮเดอราบัด มุมไบ และเมืองหลวงเดลี เนื่องจากเมืองดังกล่าวมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และแต่ละเมืองมีประชากรจำนวนมาก ซึ่งแต่ละเมืองมีโอกาสที่จะเปิดจุดขายได้ 100-150 จุด บริษัทฯ ตั้งงบประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อปีเพื่อสนับสนุนแผนส่งเสริมการตลาด
“ในเบื้องต้นบริษัทฯ ต้องการให้แบรด์สินค้าติดตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจต่อไปอีก โดยเฉพาะการขยายไปสู่ฟูดคอร์ต ซึ่งขณะนี้มีจุดขายและฟูดคอร์ตแล้ว 4 แห่งในบังกาลอร์” นายซานจีฟกล่าว
ธุรกิจร้านอาหารแบบฟาสต์ฟูดเชนในอินเดีย เช่น เคเอฟซี, แมคโดนัลล์ และซับเวย์ เติบโตอย่างรวดเร็วโดยรวมปีละประมาณ 20-30% เนื่องจากจำนวนประชากรของอินเดียกว่า 60% อายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งนิยมบริโภคอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) และแนวโน้มประชากรจะหันมาบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น โดยวางกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งเรื่องรสชาติ แบรนด์ และราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งขณะนี้ราคาไก่ทอดห้าดาวต่ำกว่าคู่แข่ง 50%
ปัจจุบันซีพีเอฟดำเนินธุรกิจในอินเดีย ประกอบด้วยโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์ม ซึ่งเป็นการลงทุนมากว่า 15 ปีแล้ว โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานอาหารสัตว์ในอินเดีย 7-8 แห่ง ตามแผนพัฒนาธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ รายได้จากธุรกิจอาหารจะมีสัดส่วนเป็น 25% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจโรงงานอาหารสัตว์และฟาร์ม
