xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมรับจราจรวิกฤต เผยปี 55 เก๋ง-ปิกอัพแห่จดทะเบียนกว่า 1.2 ล้านคัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ขบ.เผยยอดจดทะเบียนรถใหม่ปี 55 เฉพาะรถเก๋งและปิกอัพทะลุ 1.2 ล้านคัน เพิ่มจากปี 54 กว่า 4 แสนคัน ยันไม่มีปัญหาป้ายทะเบียนขาดซ้ำรอย ด้าน “ชัชชาติ” ยอมรับรถคันแรกทำรถติดจริง เตรียมประสานตำรวจและ กทม.เพิ่ม CCTV เอาผิดพวกผิดวินัยจราจร ส่วนปีใหม่เจอปัญหาแท็กซี่ไม่พอ สั่ง ขสมก.เพิ่มเส้นทางรถเมล์เชื่อมทั้งดอนเมืองและหมอชิตใหม่

นายสมชัย ศิริโชควัฒนา อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์คันแรกซึ่งได้รับสิทธิ์คืนภาษีตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่เริ่มมาตรการวันที่ 16 กันยายน 2554 - 31 ธันวาคม 2555 ทั่วประเทศมีจำนวน 527,639 คัน หรือประมาณเกือบ 50% ของจำนวนรถที่ยื่นสิทธิ์คืนภาษีไว้ที่กรมสรรพสามิตกว่า 1.25 ล้านคัน โดยเป็นรถจดทะเบียนในกรุงเทพฯ 211,411 คัน และต่างจังหวัด 316,228 คัน ส่วนเฉพาะปี 2555 (1 ม.ค.- 31 ธ.ค.) มีรถยนต์ประเภทเก๋งและปิกอัพมายื่นจดทะเบียนกับกรมฯ รวมทั่วประเทศจำนวน 1,207,996 คัน เปรียบเทียบกับปี 2554 ที่มียอดจดทะเบียนจำนวน 800,424 คัน เพิ่มขึ้นถึง 407,572 คัน ส่วนปี 2553 มีรถจดทะเบียน 969,493 คัน โดยยืนยันว่าแม้จำนวนรถจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้นมากแต่จะไม่มีปัญหาป้ายทะเบียนไม่เพียงพอแน่นอน

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า รถคันแรกมีส่วนทำให้จราจรติดขัด ซึ่งการแก้ทางกายภาพ เช่น เพิ่มพื้นที่ถนนหรือแก้จุดที่เป็นคอขวดทำได้ยาก จำเป็นต้องนำระบบไอทีมาช่วย ในการควบคุมและปล่อยสัญญาณไฟจราจรในทางแยกต่างๆ ให้สัมพันธ์กันเป็นระบบ, ควบคุมวินัยจราจรผู้ขับขี่และดำเนินการตรวจจับอย่างเด็ดขาด ทั้งจอดรถในที่ห้าม การเบียดและแซงในที่คับขัน โดยจะต้องติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมซึ่งเบื้องต้นต้องร่วมมือกับตำรวจ และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมี CCTV อยู่แล้วเพื่อนำข้อมูลมาประมวลและวางแผนการทำงานร่วมกัน โดยได้มอบหมายให้นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ ให้ได้ข้อสรุปในเดือนมกราคมนี้ ทั้งแผนการทำงานและงบลงทุน และต้องแก้กฎหมายเพื่อให้การใช้หลักฐานจาก CCTV จับกุมผู้กระทำผิดได้

สำหรับการให้บริการและอำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลปีใหม่ในภาพรวมถือว่าน่าพอใจ เนื่องจากไม่มีผู้โดยสารตกค้าง แต่ยังต้องปรับปรุงระบบเชื่อมต่อ (Connectivity) ซึ่งพบปัญหาที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่และท่าอากาศยานดอนเมืองมีรถแท็กซี่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผู้โดยสารลงเครื่องบินมาแล้วต้องรอคิวรถแท็กซี่นานเกือบชั่วโมง ซึ่งได้สั่งให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำรถเข้ามาวิ่งให้บริการฟรีจากดอนเมืองไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จตุจักร และให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. หารือกับ ขสมก.ในการจัดเส้นทางรถเมล์เพิ่มเติม โดยให้ ทอท.ปรับชานชลาหน้าอาคารผู้โดยสารเพื่อเป็นจุดจอดรถสาธารณะด้วย

ส่วนที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่นั้น พบว่ารถแท็กซี่ไม่เข้าไปรับผู้โดยสารในสถานีแต่ดักอยู่ด้านนอกแทน เพื่อหลีกเลี่ยงถูกตรวจสอบตามมาตรการคุมเข้มมิเตอร์ ได้แก้ปัญหาให้ ขสมก.จัดรถเข้าไปรับผู้โดยสารเพิ่ม และหลังจากนี้ ให้ปรับจุดจอดรถใหม่ให้ใกล้กับจุดที่ลงรถ บขส. จากเดิมที่อู่รถเมล์อยู่ห่างประมาณ 600 เมตร ซึ่งอาจไม่สะดวกในการเดินมาขึ้นรถ และให้สายตรวจของกรมขนส่งทางบก (ขบ.) ออกตรวจจับแท็กซี่ที่ดักผู้โดยสารด้านนอกสถานีซึ่งมักไม่กดมิเตอร์

“หลักการต้องส่งผู้โดยสารถึงปลายทางดังนั้นเมื่อระบบขนส่งมวลชนยังไม่พร้อม ก็ต้องหันมาให้ความสำคัญกับรถสาธารณมากขึ้น ส่วนแท็กซี่เป็นทางเลือก โดยช่วงปีใหม่ ดอนเมืองมีผู้โดยสารเฉลี่ย 45,000 คนต่อวัน สูงกว่าช่วงปกติที่มีประมาณ 40,000 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10% ส่วนสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารเฉลี่ย 156,000-157,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 12%” รมว.คมนาคม
กำลังโหลดความคิดเห็น