สยามพิวรรธน์ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เผยกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เกตติ้ง เปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่บนโลกออนไลน์ในนาม “SIAMISM” (สยามมิสซึม) ช่องทางจำหน่ายสินค้าใหม่สำหรับร้านค้าในสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ คาดหวังมีผู้สนใจเข้าชมจำนวน 500,000 แสนคนในปี 2556 และมียอดสั่งซื้อสินค้ากว่า 30% จากยอดผู้เข้าชมทั้งหมด
นางสาวเหมินฝัน ธัญไพสิษฐ์ ผู้บริหารสายส่งเสริมการตลาด บริษัท ดิจิมีเดีย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคแห่งดิจิตอลอันทันสมัยที่เชื่อมต่อทุกสังคมด้วยเครือข่ายออนไลน์ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีแนวโน้มในการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงได้พัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบใหม่ ในรูปแบบเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ภายใต้ชื่อ “SIAMISM” (สยามมิสซึม) (www.siamism.com) โดยยกระดับให้เป็นศูนย์การค้าบนโลกออนไลน์ที่เปิดให้ร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ในสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ได้มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นจากร้านค้าปกติ โดยร้านค้าสามารถดำเนินการนำเสนอสินค้าและจำหน่ายได้เองบนพื้นที่ออนไลน์ที่บริหารจัดการโดย บริษัท ดิจิมีเดีย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์
บริษัททุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทพัฒนาระบบ การบริหารจัดการ การออกแบบและดำเนินการ ซึ่งผ่านการคิดค้นและสร้างสรรค์จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชื่นชอบการชอปปิ้งสินค้าออนไลน์อย่างใกล้ชิด โดยเริ่มเปิดจำหน่ายสินค้าในช่วงซอฟต์ลอนช์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา และเปิดตัวพร้อมจำหน่ายสินค้าอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมสินค้าเกินความคาดหมายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 170,000 คนแล้ว และมียอดสั่งซื้อสินค้าประมาณ 20% จากผู้เข้าชมทั้งหมด ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีผู้เข้ามาเลือกชมสินค้าใน SIAMISM จำนวนปีละ 500,000 คน และจะมียอดการจับจ่ายสั่งซื้อสินค้า จำนวนปีละ 30% จากยอดผู้เข้าชมทั้งหมดในปี 2556
พร้อมชูกลยุทธ์ Marketing Oriented บนโลกออนไลน์ เน้น 4 Base Marketing เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1. Remote Base Marketing ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าในทุกพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยโปรโมชันโดนใจ 2. Location Base Marketing ดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการที่ศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นโดยผ่านโปรโมชันบนออนไลน์ เช่น Spin ลุ้นรับฟรีสินค้าหรือส่วนลดสูงสุดถึง 90% จำนวนกว่า 530 รายการ จากร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์ฯ และ Check in ครบตามจำนวนที่กำหนด รับทันทีบัตรกำนัลเงินสดมูลค่ารวมสูงสุดถึง 10,000 บาท 3. Social Network Marketing การสร้างปฏิสัมพันธ์ลูกค้าผ่านคอนเทนต์บนเว็บไซต์ เช่น Siam Talkism และ Siam Trend Curatorism 4. Application Marketing โดยสร้างแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการใช้งานของสมาร์ทโฟน เพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้แก่ลูกค้าครอบคลุมทั้งระบบ IOS และ Android
จุดแข็งที่จะมัดใจลูกค้านักชอปออนไลน์คือ TODAY DEALISM จำหน่ายสินค้าจากร้านค้าในสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ที่คัดสรรมาจำหน่ายในราคาดีลสุดพิเศษหาไม่ได้ที่ไหนแบบวันต่อวัน, การนำเสนอสินค้าหลากหลายครบวงจรแบ่งเป็นถึง 6 กลุ่มสินค้า ได้แก่ สินค้าแฟชั่นและแอ็กเซสซอรี (Fashion & Accessory), สินค้าเครื่องเขียนและของขวัญ (Stationary & Gift), สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ (Life Style), สินค้าไอทีและอุปกรณ์ทันสมัย (IT & Gadget), สินค้าเพื่อความงามและสุขภาพ (Beauty) และกลุ่มสินค้าอื่นๆ (Others) นอกจากนี้ยังมีรายการโปรโมชันเช่นเดียวกับศูนย์การค้าทั่วไป
“SIAMISM (สยามมิสซึม) ได้รับการพัฒนาเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรแบบเป็นมิตรกับผู้ใช้ คือสามารถเข้าชมและสั่งซื้อทั้งจากคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไอแพด และไอโฟน นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันที่สนับสนุนด้านการนำเสนอข้อมูลสินค้าใหม่ล่าสุดได้อย่างง่ายดาย การเปิดตัว SIAMISIM (สยามมิสซึม) ในฐานะศูนย์การค้าบนโลกออนไลน์ในครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของสยามพิวรรธน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของพันธมิตรผู้เช่าร้านของของศูนย์ฯ อย่างสูงสุด และเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมค้าปลีก และวงการศูนย์การค้าไทย
