“กิตติรัตน์” เมินหนังสือลับ “ทีดีอาร์ไอ” ท้กท้วง “จำนำข้าว” ยันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด พร้อมโต้ข้อหาขาดทุน 3 แสนล้าน ยอมรับอาจต้องเจ๊งได้บ้างแต่ไม่สูงอย่างที่คิด พร้อมแจงเหตุที่เปิดเผยข้อมูลการขายข้าวไม่ได้ว่าขายให้ใครบ้าง จำนวนกี่ตัน ราคาเท่าไหร่ เพราะเป็นข้อตกลงที่เรามีกับประเทศผู้ซื้อ ลั่นมีคำตอบชัดเจนในสภาฯ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ส่งหนังสือลับท้วงติงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยยอมรับว่าทีดีอาร์ไอเคยให้นโยบายแก่รัฐบาลก่อนในเรื่องของการดูแลเกษตรกรด้วยวิธีประกันรายได้ เมื่อรัฐบาลนี้ได้ใช้นโยบายจำนำข้าว ทีดีอาร์ไอก็ได้แสดงความเห็นทักท้วงไม่เห็นด้วยมาตลอด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ส่วนตัวได้ชี้แจงไปแล้วว่า การประกันรายได้ 2 ฤดูกาลก่อนใช้งบประมาณสูงมาก ในฤดูกาลปี 2552-2553 ได้ใช้งบประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และปี 2553-2554 ได้ใช้งบประมาณกว่า 7 หมื่นล้านบาทเพื่อที่จะดูแลให้เกษตรกรมีรายได้ประมาณตันละ 1 หมื่นบาท ซึ่งรัฐบาลนี้เห็นว่า 1 หมื่นบาทไม่พอต่อภาวะต้นทุนการปลูกข้าวเฉลี่ยทั่วประเทศ ดังนั้น นโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาลนี้จึงกำหนดไว้ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อตันสำหรับความชื้นมาตรฐาน ถ้าความชื้นเกินก็ต้องถอนราคาลง
หากรัฐบาลนี้กลับไปใช้วิธีแบบเดิมจะใช้งบประมาณสูงเกินไปจะทำให้กลไกราคาไม่ทำงาน เพราะการที่จะให้ส่วนต่างแก่เกษตรกรจะทำให้ราคาตั้งต้นของข้าวต่ำ หากทำเช่นนั้นจะเข้าข่ายของการใช้เงินอุดหนุน ทำให้ประเทศคู่แข่งที่ปลูกข้าวกับเราตำหนิได้ว่าเราทำให้ราคาข้าวต่ำ
ฉะนั้น รัฐบาลทราบดีว่ามีการวิเคราะห์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าว และยอมรับว่าทำอะไรก็ต้องมีข้อดีข้อเสีย แต่ว่าการดำเนินนโยบายแบบจำนำข้าวจะมีข้อดีทำให้คนปลูกข้าวจะได้เงินจริงและต้องนำข้าวมาส่งมอบจริง การที่รัฐบาลจะช่วยประคับประคับอุปทานของข้าวที่จะเข้าสู่ตลาดรัฐบาลก็พยายามส่งออกให้ได้ราคาที่ดีที่สุด ก็เห็นชัดเจนแล้วว่าในปีนี้รัฐบาลสามารถส่งข้าวได้ราคาสูงกว่าฤดูกาลผลิตก่อนๆ อย่างมีนัยสำคัญ แล้วไม่ได้ถูกตำหนิจากประชาคมผู้ปลูกข้าวในโลกว่าเราไปทำให้ข้าวราคตกต่ำ เดือนร้อนไปถึงชาวนาประเทศอื่น
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็ไม่ได้เดือดร้อนมากมายเพราะราคาข้าวเปล่าขยับขึ้นไม่มาก แต่กว่าจะเป็นมื้ออาหารต้องผสมกับเนื้อสัตว์ ผัก ไข่ต่างๆ ฉะนั้น การดำเนินการเช่นนี้ ทำให้เราสามารถดำเนินการตามนโยบายได้อย่างดี
นายกิตติรัตน์ยืนยันว่า ทุกคำถามที่จะมีเข้ามาในสภาฯ จะได้รับการตอบอย่างชัดเจน ส่วนการระบายข้าวของรัฐบาลยังดำเนินต่อไปอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การขาดทุนจะเกิดขึ้นได้บ้าง แต่จะไม่ขาดทุนเป็นตัวเลขอย่างที่นักวิจารณ์ยกขึ้นมา บางท่านประเมินสูงถึง 3 แสนล้านบาท ขอชี้แจงว่าฤดูกาลที่แล้วข้าวที่รับจำนำมาทั้งหมดยังไม่ถึง 3 แสนล้านบาท
ดังนั้นจึงขาดทุน 3 แสนล้านบาทอย่างที่ยกขึ้นมาไม่ได้ ถ้าข้าวขายได้ แต่ที่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลการขายข้าวว่าขายให้ใคร จำนวนกี่ตัน ราคาเท่าไหร่ เป็นข้อตกลงที่เรามีกับประเทศผู้ซื้อ โดยประเทศผู้ซื้อเองไม่อยากให้ถูกเปรียบเทียบกับประเทศไหนว่าซื้อถูกหรือแพงกว่าใครเท่าไหร่ ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องดำเนินการไปตามสัญญาที่มีต่อกัน การตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ยาก เพราะมีองค์กรอิสระตรวจสอบได้อยู่แล้ว ดังนั้นขอให้มั่นใจจะอธิบายในสภาฯ อย่างชัดเจน
