xs
xsm
sm
md
lg

“เดอะโต้ง” มั่นใจ ศก.ปีนี้โต 5% ฉุน “ทีดีอาร์ไอ” ท้วงจำนำข้าว ลั่นพร้อมแจงในสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
“กิตติรัตน์” มั่นใจ ศก.ไทยปีนี้ยังเติบโตได้ 5% แม้ส่งออกขยายตัวไม่ดี ยันไทยไม่ได้รับผลกระทบ Fiscal Cliff เตรียมเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น ยอมรับต่างชาติกังวลปัญหาการเมือง พร้อมโต้ “ทีดีอาร์ไอ” ทักท้วงจำนำข้าวมาตลอด แต่รัฐบาลก่อนใช้วิธีการประกันรายได้ทีดีอาร์ไอสนับสนุน ลั่นพร้อมชี้แจงในสภา

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังขยายตัวได้ในอัตรา 5% แม้การส่งออกจะขยายตัวได้ไม่ดี โดยเศรษฐกิจไทยอยู่ระหว่างการปรับสมดุล สร้างกำลังซื้อในประเทศมากขึ้น ดังนั้น ถือว่ามีเสถียรภาพทั้งเศรษฐกิจ อัตราแลกเปลี่ยน ดอกเบี้ย และการจ้างงาน โดยไม่มีปัญหาการว่างงานในอัตราสูง และการบริหารภายใต้กรอบที่การขาดดุลงบประมาณน้อยกว่า 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ทำให้เศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง ไม่ได้รับผลกระทบหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) จากสหรัฐฯ

“คิดว่าเราไม่ได้รับอานิสงส์จากการดูแลสภาพคล่องของสหรัฐฯ และเรามีความพร้อมของเราเพียงพอ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ดูแลสภาพคล่องที่ล้นเกินไป เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการสภาพคล่องต่างๆ ถือเป็นการดำเนินด้านการเงิน ส่วนด้านการคลัง เราก็มีแผนลดขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีที่แล้ว ขาดดุลงบประมาณ 4 แสนล้านบาท ปีนี้เหลือ 3 แสนล้านบาท ปีหน้าเหลือ 2 แสนกว่าล้าน”

สำหรับ Fiscal cliff ที่เป็นเครื่องมือทางการคลังที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการ รวมถึงการดูแลด้านการเงิน โดยมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ควบคู่กันไปด้วย จะทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงตึงตัวเฉียบพลัน แต่ถือเป็นการสร้างวินัย และน่าจะเป็นข่าวดี ดังนั้น จึงมอง Fiscal cliff ไม่ได้น่ากังวล หากมีการดำเนินการแบบระมัดระวัง

ส่วนสถานการณ์การเมืองในประเทศ ยอมรับว่านักลงทุนต่างประเทศมีความกังวลว่าการเมืองไทยมีความมั่นคงจริงหรือไม่ ซึ่งได้ชี้แจงว่าการเมืองไทยมีความมั่นคงมากขึ้น และรัฐบาลตั้งใจทำงานที่ดี มีความมุ่งมั่นทำงานให้ประเทศ

“การเมืองที่ไม่มั่นคงในสายตาต่างประเทศบางส่วนทำให้ต้องระมัดระวัง ไม่ให้มีการทุจริตทั้งภาคราชการ และเอกชน เช่น ในตลาดหุ้น หากผู้ลงทุนคลางแคลงใจ ก็ทำให้มีการหยิบยกเรื่องธรรมาภิบาลมาใช้ ส่วนการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 24 เดือนนี้ ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย”

ส่วนโครงการรับจำนำข้าว ที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ท้วงติงนั้น มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อรัฐบาลนี้นำโครงการรับจำนำข้าวมาใช้ เพราะทีดีอาร์ไอทักท้วงมาตลอด ขณะที่รัฐบาลก่อนใช้วิธีการประกันรายได้ แต่ทีดีอาร์ไอสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม มองว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น เนื่องจากกำหนดราคารับจำนำที่ 15,000 บาทต่อตัน เพื่อให้เพียงพอต่อต้นทุนการเพาะปลูก ขณะที่การประกันราคากำหนดที่ 10,000 บาทต่อตันเท่านั้น และยังใช้งบประมาณที่สูง และกลไกราคาไม่ทำงาน

ทั้งนี้ โครงการรับจำนำข้าวอาจเกิดการขาดทุนบ้าง ไม่ได้ทำให้เกิดการขาดทุนสูงถึง 3 แสนล้านบาท ตามที่มีการตั้งข้อสังเกต วิธีการระบายข้าวก็ได้ดำเนินการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น การตรวจสอบการทุจริตในเรื่องนี้ทำได้ไม่ยากเพราะมีองค์กรอิสระสามารถตรวจสอบได้ตลอด ดังนั้น ขอให้มีความมั่นใจ และรัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกข้อสังเกตในสภา
กำลังโหลดความคิดเห็น