ส.อ.ท.ยังร้อนระอุ สมาชิกต่างจังหวัดไม่ร่วมวง “พยุงศักดิ์” ถกมาตรการรับมือผลกระทบค่าแรง 300 บาทต่อวันทั่วประเทศวันที่ 20 พ.ย.นี้ จับตา กบ.ประลองกำลังแต่ละฝ่ายยกแรกก่อนลงมติโหวตให้ประธาน ส.อ.ท.ออก 26 พ.ย.นี้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตฯ ยันไม่ก้าวก่ายเป็นเรื่องภายใน
นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานสายแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อนำเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท/วันทั่วประเทศที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. เป็นประธานวันที่ 20 พ.ย. 55 ส.อ.ท.ต่างจังหวัดจะไม่เข้าร่วมหารือเพราะเห็นว่าเป็นการสร้างภาพของนายพยุงศักดิ์ เพราะที่ผ่านมาได้ให้โอกาสมานานแล้วแต่กลับไม่ผลักดันเรื่องนี้เพื่อช่วยเหลือสมาชิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารหรือ กบ.วันที่ 20 พ.ย. ที่ประกอบด้วยสมาชิก 60 คนซึ่งมาจากประธาน ส.อ.ท., รองประธาน ส.อ.ท., เลขาธิการ ส.อ.ท. ประธานสภาอุตสาหกรรมกลุ่มต่างๆ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด จะเป็นการเช็กคะแนนเสียงเบื้องต้นว่าจะมีมาตรการอย่างไรกับนายพยุงศักดิ์ อย่างไรก็ตาม กบ.ไม่มีอำนาจโหวตเพื่อปลดนายพยุงศักดิ์แต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการประลองกำลังเบื้องต้นเท่านั้น
ทั้งนี้เพราะสมาชิกที่มีอำนาจโหวตเสียงให้นายพยุงศักดิ์พ้นจากตำแหน่ง ต้องรอดูสถานการณ์วันที่ 26 พ.ย.ที่เป็นการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท. หรือ กส. รวม 343 คนที่มาจากตัวแทนสมาชิกทั่วประเทศ โดยต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งจึงจะโหวตนายพยุงศักดิ์ให้พ้นจากตำแหน่งได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง กบ.ทั้ง 60 คนก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมๆ กัน และต้องให้ กส.เลือก กบ.เข้ามาใหม่ 60 คน และให้ทั้ง 60 คนโหวตเลือกประธาน ส.อ.ท.คนใหม่
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 300 บาทต่อวันที่จะมีผล 1 ม.ค. 56 ของรัฐบาลนั้นต้องเดินหน้าต่อไปแน่นอน คงจะไม่สามารถเลื่อนตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ที่เสนอให้ชะลอได้ แต่รัฐจะหามาตรการมาลดผลกระทบแทนโดยเฉพาะการส่งเสริมการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
ส่วนความขัดแย้งภายใน ส.อ.ท.จากปัญหาค่าจ้าง 300 บาทนั้น ขณะนี้ยังไม่มีตัวแทน ส.อ.ท.ประสานเข้ามา คาดว่าเป็นเรื่องภายในองค์กร จึงมั่นใจว่าปัญหาดังกล่าวนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.จะสามารถแก้ไขได้ ไม่จำเป็นต้องให้ตนเข้าไปจัดการ แม้ตนจะมีอำนาจปลดประธาน ส.อ.ท.ก็ตาม แต่ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมไม่ใช่จากความขัดแย้งภายใน
