อดีตบิ๊ก “ส.อ.ท.” เผยต้นตอความแตกแยกในองค์กรเพราะประธานไม่ดูแลสมาชิก ยันไม่แปลกใจ “พยุงศักดิ์” ถูกต่อต้าน แนะอย่าดูถูกฐานเสียงที่เลือกตนเองขึ้นมา เตือนให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนใหม่ที่จะเข้ามา ขณะที่ “สมมาต” ทำหนังสือโต้ “พยุงศักดิ์” กล่าวหาสมาชิกที่ร้องเรียนขึ้นค่าแรง 300 บาทเป็นขบวนการจ้องล้ม มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ยันไม่เป็นความจริง พร้อมตอกกลับ ที่ผ่านมาประธานไม่เคยตั้งคณะทำงานใดๆ เพื่อศึกษาถึงความเดือดร้อนของสมาชิก และผู้ประกอบการทั่วประเทศ
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงปัญหาความแตกแยกที่เกิดขึ้นใน ส.อ.ท.ขณะนี้ โดยมองว่าบทบาทหน้าที่หลักของ ส.อ.ท.ต้องทำงานให้สมาชิก และดูแลสมาชิกเมื่อเกิดปัญหา แต่เมื่อเขาไม่ได้รับการดูแลก็ไม่แปลกใจที่สมาชิกจะไม่พอใจ เพราะคนที่มาทำงานเป็นประธานนั้น ต้องคิดถึงสมาชิกเป็นหลัก ไม่ใช่คิดถึงเรื่องส่วนตัว
“หลังจากนี้ทางสหพัฒน์เองคงต้องดูว่าใครจะเป็นผู้เหมาะสมคนใหม่อีกครั้ง แต่คนใหม่นี้คงต้องดูให้ละเอียดกว่าเดิม ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นประธาน ส.อ.ท. ซึ่งจะต้องทำงานให้สมาชิก เพราะการขึ้นมาเป็นประธานได้นั้นก็เพราะสมาชิกเลือกเข้ามา และในปัจจุบันสมาชิกก็สามารถทำงานและส่งข่าวสารหากันได้อย่างทั่วถึง และรวดเร็ว”
ทั้งนี้ นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ ส.อ.ท. ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อสมาชิก ส.อ.ท. โดยระบุว่า จากหนังสือชี้แจงของนายพยุงศักดิ์ที่ส่งถึงสมาชิกทุกคน ได้อ้างว่าขณะนี้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยทำงานเป็นขบวนการและมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ไม่ถูกต้องซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก โดยกลุ่มบุคคลใช้สมาชิกที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องค่าจ้าง 300 บาทเป็นข้ออ้างเพื่อสร้างสถานการณ์ และจะนำไปสู่ผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องของตนเองและกลุ่มพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ ส.อ.ท.นั้น ไม่เป็นความจริง และที่ผ่านมาประธานไม่เคยตั้งคณะทำงานใดๆ เพื่อศึกษาถึงความเดือดร้อนของสมาชิกและผู้ประกอบการทั่วประเทศ
สำหรับนายพยุงศักดิ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท.วาระแรกปี 2553-2555 และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานในวาระ 2 ระหว่างปี 2555-2557 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมประกันภัยพิบัติ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) กรรมการธนาคารกรุงไทย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)