xs
xsm
sm
md
lg

“พรีเมียร์ลีก”..งานหินในมือ “ซีทีเอช”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้ว่า บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด หรือซีทีเอช จะคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรายเดียวในไทยและรวมถึง กัมพูชา และลาว ไปไว้ในอุ้งมือเรียบร้อยแล้วก็ตาม ด้วยมูลค่าที่ว่ากันว่าไม่ต่ำกว่า 5,000-7,000 ล้านบาท มากกว่าเมื่อครั้งที่ทรูวิชั่นส์ครองสิทธิ์เดิมที่มีราคาประมาณ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น

นั่นคือความยิ่งใหญ่ที่ได้มา...แต่จากนี้มันจะกลายเป็นความยิ่งยากที่จะบริหารจัดการอย่างไรกับการแพร่ภาพและการทำเงินเพื่อให้คืนทุนให้ได้ในช่วงเวลาแค่ 3 ปีหรือ 3 ฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก (2013-2016)

เพราะนอกจากค่าประมูลลิขสิทธิ์ที่แพงโขแล้ว ยังไม่นับรวมงบประมาณลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงข่ายต่างๆ ในการนำพาคอนเทนต์สู่สายตาผู้ชม ที่ตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2013/2014 2014/2015 2015/2016 จะให้ถึง 7 ล้านครัวเรือน จากปัจจุบันมี 3.5 ล้านครัวเรือน เบ็ดเสร็จแล้วไม่น่าต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท

เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบทำก็คือ การเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทซีทีเอชอีกตามแผนงานที่เตรียมไว้ จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท

รวมไปถึงการเร่งสรุปหาผู้ร่วมทุนที่จะเข้ามาถือหุ้นอีก 20% ที่เหลืออยู่ให้เร็วที่สุด เชื่อขนมกินได้เลยว่า เวลานี้มีแต่คนที่สนใจจะกระโดดเข้ามาร่วมถือหุ้นเต็มไปหมดแล้ว จากเดิมที่จำนวนนี้กันไว้ให้กลุ่มจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ แต่ก็ยังไม่สรุป

เรื่องเงินทุนไม่น่าจะมีปัญหาในสายตาของวิชัย ทองแตง หัวเรือใหญ่ซีทีเอช เพราะขณะนี้นอกจากเงินทุนของบริษัทเองที่มีอยู่แล้ว ยังมีอีกอย่างน้อย 3 แบงก์ใหญ่ที่ตอบรับให้การสนับสนุน เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารธนชาต

ส่วนแผนการตลาดเชิงธุรกิจนั้น วิชัยยอมรับว่าจะต้องมีการประชุมหารือในรายละเอียดก่อนสรุปอีกว่าจะรุกอย่างไร แบบไหน

ทว่าที่หินจริงๆ และหนักหน่วงก็คือ การแพร่ภาพตามเงื่อนไขที่อีพีแอลเจ้าของลิขสิทธิ์พรีเมียร์
ลีกกำหนดในสัญญาที่ซีทีเอชย่อมรู้ดี

หากจะพิจารณาไปแล้ว หนทางการก้าวย่างของซีทีเอชก็น่าที่จะแตกต่างไปจากยุทธศาสตร์การเดินของทรูวิชั่นส์เมื่อครั้งยังครองลิขสิทธิ์อยู่ ในการที่จะต้องแพร่ภาพให้ได้แพลตฟอร์มากที่สุด ทั้งเป็นไปตามเงื่อนไขที่อีพีแอลกำหนด และเพื่อการแสวงหารายได้ในเชิงธุรกิจของซีทีเอช

วัชร วัชรพล บอสใหญ่จากค่ายไทยรัฐที่เป็นผู้ถือหุ้นในซีทีเอชด้วย ย้ำว่า ช่องทางออกอากาศ
ของพรีเมียร์ลีกของซีทีเอชจะต้องครอบคลุมทั้ง 3 สกรีนแน่นอน ประกอบด้วย จอทีวี จอคอมพิวเตอร์ และจอแท็บเล็ตกับมือถือ และย้ำด้วยว่าจะแพร่ภาพออกอากาศหมดครบ 380 แมตช์แน่นอน แต่แพลตฟอร์มใดบ้างยังไม่สรุป

ถ้าดูแต่ละอย่างแล้ว ช่องเคเบิลก็จะมีเคเบิลทีวีของสมาชิกซีทีเอชทั่วประเทศกว่า 350 ราย เป็นช่องทางส่วนหนึ่งตายตัวอยู่แล้ว

รูปแบบของการถ่ายทอด ทางซีทีเอชจะทำเป็นดิจิตอลบรอดแบนด์ทั้งหมดเป็นเคเบิลภูธรที่ทะลุทะลวงเข้าถึง 900 อำเภอ 77 จังหวัดทั่วไทย ซึ่งล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาใช้ระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกให้กระจายได้ทั่วประเทศของบริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

ในแง่ของฟรีทีวี ล่าสุดก็มีช่อง 3 ที่เจรจากันแล้วและคงไม่พลาดที่จะเป็นฟรีทีวีที่ถ่ายทอดพรีเมียร์ลีก แต่ช่องที่เหลือก็ไม่น่าที่จะมีปัญหา เพราะถ้าเข้ามาร่วมถ่ายทอดสดสลับบางแมตช์กันไปก็มีแต่ได้กับได้ทั้งคู่ระหว่างซีทีเอชกับฟรีทีวีแต่ละช่อง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของอีพีแอลที่ต้องมีสัดส่วนถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวีด้วย

แล้วเคเบิลทีวีอย่างทรูวิชั่นส์ล่ะ

แต่ก็มีทางออกสำหรับทรูวิชั่นส์เหมือนกัน ที่จะร่วมวงไพบูลย์กับเขาด้วยถ้าหากยอมรับข้อเสนอของซีทีเอชในการดึงมาเป็นพันธมิตรกัน มีหลายแนวทาง แต่ที่ดูเหมือนว่าจะหลีกหนีไม่พ้นคือ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทรูวิชั่นส์จะยอมแลกเปลี่ยนคอนเทนต์บางอันที่ซีทีเอชต้องการเพื่อสิทธิถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกให้กับทรูฯ เพราะทรูฯ ก็ยังมีคอนเทนต์อื่นดีๆ อีกมากในครอบครอง

หันกลับมามองเรื่องของแพกเกจและราคา ซึ่งซีทีเอชคงต้องงัดกลยุทธ์ราคาต่ำมาสร้างแรงเหวี่ยงกระทบชิ่งทรูวิชั่นส์แน่นอน เพราะถ้าราคาถูก เงื่อนไขดี มีบอลพรีเมียร์ลีกให้ชม แล้วสมาชิกทรูวิชั่นส์ที่เป็นคอบอลหน้าไหนจะยังอยู่เฉยไม่มาซื้อแพกเกจของซีทีเอชได้

เรียกได้ว่าซีทีเอชเอาทั้งขึ้นเอาทั้งล่อง ไม่ใช่เอาอยู่ อย่างเดียว

เบื้องต้นมีข่าวเล็ดลอดออกมาแล้วว่า ซีทีเอชจะกำหนดราคาแพกเกจไว้เฉลี่ยตั้งแต่ 200-500 บาท ซึ่งแพกเกจที่สูงสุดก็ไม่น่าที่จะเกิน 500 บาท แต่รายละเอียดคาดว่า จะยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

เป็นเรื่องไม่ควรอย่างยิ่งที่ซีทีเอชจะตั้งราคาแพกเกจที่สูงเกินไป แม้ว่าต้องการจะพยายามขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มขึ้นอีกก็ตาม เนื่องจาก 1. ซีทีเอชประกาศมาตั้งแต่แรกก่อนได้รับสิทธิ์แล้วว่าราคาแพกเกจจะต่ำกว่ารายเดิมทำ 2. หากตั้งราคาสูงสังคมจะประณามและภาพลักษณ์ซีทีเอชก็จะเสียหายแบบมจำเป็น 3. ซีทีเอชต้องเล่นเกมขายถูกเข้าว่าเพื่อเอาปริมาณสมาชิก 4. ตั้งราคาต่ำเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างรายเดิมกับรายใหม่

เพราะนี่คือการกระโดดเข้าสู่วังวนลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกของซีทีเอชเป็นครั้งแรกเพื่อปูทางในการรุกต่อไปนั่นเอง

เหล่านี้คือสิ่งท้าทายที่เป็นงานหินรออยู่เบื้องหน้า “ซีทีเอช” ผู้คว่ำ “ทรูวิชั่นส์”
กำลังโหลดความคิดเห็น