“ชัชชาติ” ยันต้องเร่งเซ็นสัญญาก่อสร้างรถไฟสีแดงสัญญา 1 เตรียมร่อนหนังสือถึง “กก.กลั่นกรองฯ” และเลขาฯ ครม.ยืนยันมติอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ด้าน “ประภัสร์” ฟันธงประมูลสัญญา3 ไม่เข้าข่ายฮั้ว เหตุยึดเงื่อนไขไจก้าและยกเว้นระเบียบพัสดุฯแล้ว จ่อหารือบอร์ดขอเดินหน้าประมูล
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะเร่งแก้ปัญหากรณีที่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและอาคารซ่อมบำรุง) วงเงิน 29,826 ล้านบาท กับกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ซิโนไทย-เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้ แม้ว่ามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 จะให้ความเห็นชอบแล้วแต่เนื่องจากกระทรวงการคลังมีความเห็นในคณะกรรมการกลั่นกรองที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่าให้สรุปผลประกวดราคาสัญญา 2, 3 ก่อน แต่ปัญหาคือทั้ง 3 สัญญาไม่ได้ประกวดราคาพร้อมกัน การรอให้ครบจะต้องทำให้โครงการล่าช้าอีกไม่น้อยกว่า 7-8 เดือน ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองฯ อีกครั้งเพื่อยืนยันความชัดเจน
ส่วนสัญญา 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้า) วงเงิน 26,272 ล้านบาทนั้น ซึ่งมีข้อกังวลเรื่องเข้าข่ายพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) นั้น ได้มอบหมายให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พิจารณาหาทางออก เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเงื่อนไขเงินกู้ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิกการประกวดราคา ทั้งนี้ รถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตต้องเร่งก่อสร้างเพราะล่าช้ามานานแล้ว และขณะนี้ได้เกิดปัญหากับช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันที่ได้ก่อสร้างเสร็จแต่ยังไม่สามารถเดินรถได้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานหารือรายละเอียดโครงการรถไฟสายสีแดง ในประเด็นมติ ครม.และเห็นว่ามติ ครม.ไม่ได้ห้ามลงนามสัญญา 1
แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ร.ฟ.ท.จะทำหนังสือมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้สอบถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่า มติดังกล่าวให้ ร.ฟ.ท.ลงนามสัญญากับผู้รับเหมาได้หรือไม่
“อ่านมติ ครม.ไม่มีตรงไหนที่เขียนห้ามไม่ให้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมา ส่วนความเห็นคลังนั้นเสนอไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงให้ทำหนังสือสอบถามไปที่เลขาฯ ครม.ในฐานะที่เป็นผู้เขียนมติ ครม.เพื่อความชัดเจน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ร.ฟ.ท.จะทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อส่งไปยังเลขาฯ ครม.ต่อไป” นายประภัสร์กล่าว
ส่วนปัญหาสัญญา 3 นั้น นายประภัสร์กล่าวว่า เรื่องฮั้วไม่ควรเป็นประเด็นเนื่องจากโครงการต้องทำตามเงื่อนไขไจก้า และขอยกเว้นระเบียบพัสดุ อีกทั้งกฤษฎีกาชี้ว่าไม่มีประเด็นข้อกฎหมาย โดยจะหารือกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. เร็วๆ นี้เพราะไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิกประมูล
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะเร่งแก้ปัญหากรณีที่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและอาคารซ่อมบำรุง) วงเงิน 29,826 ล้านบาท กับกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ซึ่งประกอบด้วย บมจ.ซิโนไทย-เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้ แม้ว่ามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 จะให้ความเห็นชอบแล้วแต่เนื่องจากกระทรวงการคลังมีความเห็นในคณะกรรมการกลั่นกรองที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่าให้สรุปผลประกวดราคาสัญญา 2, 3 ก่อน แต่ปัญหาคือทั้ง 3 สัญญาไม่ได้ประกวดราคาพร้อมกัน การรอให้ครบจะต้องทำให้โครงการล่าช้าอีกไม่น้อยกว่า 7-8 เดือน ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองฯ อีกครั้งเพื่อยืนยันความชัดเจน
ส่วนสัญญา 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล รวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้า) วงเงิน 26,272 ล้านบาทนั้น ซึ่งมีข้อกังวลเรื่องเข้าข่ายพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) นั้น ได้มอบหมายให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พิจารณาหาทางออก เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเงื่อนไขเงินกู้ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิกการประกวดราคา ทั้งนี้ รถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตต้องเร่งก่อสร้างเพราะล่าช้ามานานแล้ว และขณะนี้ได้เกิดปัญหากับช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันที่ได้ก่อสร้างเสร็จแต่ยังไม่สามารถเดินรถได้
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เป็นประธานหารือรายละเอียดโครงการรถไฟสายสีแดง ในประเด็นมติ ครม.และเห็นว่ามติ ครม.ไม่ได้ห้ามลงนามสัญญา 1
แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ร.ฟ.ท.จะทำหนังสือมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้สอบถามไปยังเลขาฯ ครม.ว่า มติดังกล่าวให้ ร.ฟ.ท.ลงนามสัญญากับผู้รับเหมาได้หรือไม่
“อ่านมติ ครม.ไม่มีตรงไหนที่เขียนห้ามไม่ให้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมา ส่วนความเห็นคลังนั้นเสนอไว้ในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงให้ทำหนังสือสอบถามไปที่เลขาฯ ครม.ในฐานะที่เป็นผู้เขียนมติ ครม.เพื่อความชัดเจน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ร.ฟ.ท.จะทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อส่งไปยังเลขาฯ ครม.ต่อไป” นายประภัสร์กล่าว
ส่วนปัญหาสัญญา 3 นั้น นายประภัสร์กล่าวว่า เรื่องฮั้วไม่ควรเป็นประเด็นเนื่องจากโครงการต้องทำตามเงื่อนไขไจก้า และขอยกเว้นระเบียบพัสดุ อีกทั้งกฤษฎีกาชี้ว่าไม่มีประเด็นข้อกฎหมาย โดยจะหารือกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. เร็วๆ นี้เพราะไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิกประมูล
