ร.ฟ.ท.จ่อล้มประมูลรถไฟสีแดงสัญญา 3 วงเงิน 2.6 หมื่นล้าน เหตุมีผู้ถือหุ้นไขว้ใน 2 บริษัทเข้าข่ายผิด พ.ร.บฮั้ว “ชัจจ์” สั่งเร่งสรุปหวั่นกระทบ 2 สัญญาแรก บอร์ดส่ง “วิโรจน์” เจรจาไจก้า ก่อนออกมติยกเลิกเป็นทางการ
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เร่งให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาประกวดราคา โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญา 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้า) วงเงิน 26,272 ล้านบาทอย่างรอบคอบ กรณีที่มีปัญหาทางข้อกฎหมายที่อาจเข้าข่ายฮั้วประมูลเนื่องจากมีข้อสังเกตว่ากรรมการอิสระมีชื่ออยู่ 2 บริษัทที่ยื่นซองประกวดราคาเพราะหามีปัญหาขึ้นอาจจะมีการฟ้องร้อง จะทำให้โครงการล่าช้า
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวจนได้ข้อยุติแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือแจ้งมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรยกเลิกการประกวดราคา เพราะมีความหมิ่นเหม่ว่าจะเข้าข่ายพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) ซึ่งหากยังดึงดันเดินหน้าต่อไป
ก็อาจเกิดการฟ้องร้อง หรือมีการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในภายหลัง จะทำให้โครงการความล่าช้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งได้แนะนำต่อบอร์ด ร.ฟ.ท.ไปแล้ว
“หาก ร.ฟ.ท.พิจารณายกเลิกสัญญา 3 แล้วเปิดประกวดราคาใหม่จะไม่ส่งผลให้โครงการล่าช้า สามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะมีเอกสารครบแล้ว และมีกรอบวงเงินที่ชัดเจน จึงไม่ต้องเกรงว่าการประกวดราคาใหม่จะทำให้วงเงินก่อสร้างเพิ่มขึ้น เพราะหากผู้รับงานต้องการชนะประมูล ก็ต้องเสนอราคาอยู่ภายใต้ราคากลางของ ร.ฟ.ท.อยู่แล้ว แต่หากเดินหน้าต่อไปแล้วเข้าข่าย พ.ร.บ.ฮั้วประมูลก็จะล่าช้ามากขึ้นไปอีก ขณะที่สัญญา 3 ก็เป็นสัญญาที่สามารถก่อสร้างได้ภายหลังหลังจากก่อสร้างสัญญา 1 สถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง และสัญญา 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟอยู่แล้ว ซึ่งจะดำเนินการได้ทันภายหลังทั้ง 2 สัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมาย” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ร.ฟ.ท.ได้มีพิจารณาแล้วว่า สัญญา 3 เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และต้องยกเลิกการประกวดราคาแน่นอน โดยบอร์ดได้มอบหมายให้นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าด้านยุทธศาสตร์และอำนวยการ รักษาการผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ไปเจรจากับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า)ภายในสัปดาห์นี้จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ได้รายงานผลการพิจารณาให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบและไม่ได้ท้วงติงใดๆ
สำหรับสัญญาที่ 3 มีผู้ยื่นข้อเสนอ 4 ราย คือ 1. กลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachiและ บริษัท Sumitomo Corporation) 2. กลุ่มกิจการร่วมค้า SMCK (บริษัท SIEMENS Ak piengesellschaftบริษัท SIEMENS LIMITED บริษัท MITSUBISHI CORPORATION และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK) 3. กลุ่มกิจการร่วมค้า MIR (บริษัท Maru Beni coporation บริษัท อิตาเลียน-ไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ บริษัท Hyundai Rotem Company) และ 4. กลุ่มกิจการร่วมค้าซัมซุง (บริษัท Samsung engineering LTD บริษัท Chr zhu zhou electronic locomotive ltd บริษัท Sojitz jitz corperation และบริษัทSamsung SDS Ltd)
โดยผู้รับเหมา 4 รายที่เคยมายื่นข้อเสนอนั้น ร.ฟ.ท.ไม่ได้ตัดสิทธิ์ จึงสามารถมายื่นข้อเสนอการประกวดราคารอบใหม่ได้ เพียงแต่ต้องปรับโครงสร้างผู้ร่วมทุนให้ถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ร.ฟ.ท.จะได้เปิดประกวดราคาสัญญาที่ 3 อีกครั้ง เพราะมีเอกสารครบถ้วนอยู่แล้ว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เร่งให้คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่มีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาประกวดราคา โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญา 3 (งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้า) วงเงิน 26,272 ล้านบาทอย่างรอบคอบ กรณีที่มีปัญหาทางข้อกฎหมายที่อาจเข้าข่ายฮั้วประมูลเนื่องจากมีข้อสังเกตว่ากรรมการอิสระมีชื่ออยู่ 2 บริษัทที่ยื่นซองประกวดราคาเพราะหามีปัญหาขึ้นอาจจะมีการฟ้องร้อง จะทำให้โครงการล่าช้า
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบอร์ด ร.ฟ.ท.ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวจนได้ข้อยุติแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือแจ้งมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าควรยกเลิกการประกวดราคา เพราะมีความหมิ่นเหม่ว่าจะเข้าข่ายพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) ซึ่งหากยังดึงดันเดินหน้าต่อไป
ก็อาจเกิดการฟ้องร้อง หรือมีการร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในภายหลัง จะทำให้โครงการความล่าช้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งได้แนะนำต่อบอร์ด ร.ฟ.ท.ไปแล้ว
“หาก ร.ฟ.ท.พิจารณายกเลิกสัญญา 3 แล้วเปิดประกวดราคาใหม่จะไม่ส่งผลให้โครงการล่าช้า สามารถดำเนินการได้ทันทีเพราะมีเอกสารครบแล้ว และมีกรอบวงเงินที่ชัดเจน จึงไม่ต้องเกรงว่าการประกวดราคาใหม่จะทำให้วงเงินก่อสร้างเพิ่มขึ้น เพราะหากผู้รับงานต้องการชนะประมูล ก็ต้องเสนอราคาอยู่ภายใต้ราคากลางของ ร.ฟ.ท.อยู่แล้ว แต่หากเดินหน้าต่อไปแล้วเข้าข่าย พ.ร.บ.ฮั้วประมูลก็จะล่าช้ามากขึ้นไปอีก ขณะที่สัญญา 3 ก็เป็นสัญญาที่สามารถก่อสร้างได้ภายหลังหลังจากก่อสร้างสัญญา 1 สถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง และสัญญา 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟอยู่แล้ว ซึ่งจะดำเนินการได้ทันภายหลังทั้ง 2 สัญญาก่อสร้างแล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการได้ตามเป้าหมาย” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ร.ฟ.ท.ได้มีพิจารณาแล้วว่า สัญญา 3 เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และต้องยกเลิกการประกวดราคาแน่นอน โดยบอร์ดได้มอบหมายให้นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าด้านยุทธศาสตร์และอำนวยการ รักษาการผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ไปเจรจากับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า)ภายในสัปดาห์นี้จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ในเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ได้รายงานผลการพิจารณาให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบและไม่ได้ท้วงติงใดๆ
สำหรับสัญญาที่ 3 มีผู้ยื่นข้อเสนอ 4 ราย คือ 1. กลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachiและ บริษัท Sumitomo Corporation) 2. กลุ่มกิจการร่วมค้า SMCK (บริษัท SIEMENS Ak piengesellschaftบริษัท SIEMENS LIMITED บริษัท MITSUBISHI CORPORATION และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK) 3. กลุ่มกิจการร่วมค้า MIR (บริษัท Maru Beni coporation บริษัท อิตาเลียน-ไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ บริษัท Hyundai Rotem Company) และ 4. กลุ่มกิจการร่วมค้าซัมซุง (บริษัท Samsung engineering LTD บริษัท Chr zhu zhou electronic locomotive ltd บริษัท Sojitz jitz corperation และบริษัทSamsung SDS Ltd)
โดยผู้รับเหมา 4 รายที่เคยมายื่นข้อเสนอนั้น ร.ฟ.ท.ไม่ได้ตัดสิทธิ์ จึงสามารถมายื่นข้อเสนอการประกวดราคารอบใหม่ได้ เพียงแต่ต้องปรับโครงสร้างผู้ร่วมทุนให้ถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ร.ฟ.ท.จะได้เปิดประกวดราคาสัญญาที่ 3 อีกครั้ง เพราะมีเอกสารครบถ้วนอยู่แล้ว
