แอร์พอร์ตลิงก์เซ็ง ผู้โดยสารหายวันละ 3,000 คน เหตุแอร์เอเชียย้ายฐานจากสุวรรณภูมิมาดอนเมือง ส่วน 20 บาทตลอดสายยังไม่โดนใจคนยังเมิน แถมเป็นช่วงปิดเทอม เผย ต.ค.รายได้ลดไปถึง 4 ล้านบาท รออีก 2 เดือนประเมินใหม่ ขณะที่มีแนวคิดปรับรถ Express วิ่งเป็น City หมด ระหว่างรอซื้อรถเพิ่มเพื่อแก้ปัญหารถไม่พอและแออัด
นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตลิงก์) เปิดเผยว่า การทดลองเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายสำหรับรถขบวนธรรมดา (City Line) ช่วงเวลา 11.00-14.00 น. ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนเป็นต้นมาถึงขณะนี้เป็นเวลา 1 เดือนแล้วนั้น ปรากฏว่ามีผู้โดยสารใช้บริการเฉพาะในช่วง 3 ชั่วโมงดังกล่าวประมาณ 5,600-5,700 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 10% ในขณะที่ทั้งวันขบวน City Line มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 4 หมื่นคนต่อวัน ลดลงจากเดิมที่มีเฉลี่ยวันปกติ 4.3 หมื่นคน ส่วนวันศุกร์เคยสูงถึง 5 หมื่นคน ส่วนรถไฟฟ้าด่วน (Express Line) มีผู้โดยสารเฉลี่ยลดลงเหลือ 2,200 คนต่อวัน จากเดิมที่มี 2,900-3,000 คน
ซึ่งจากการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงก์ในภาพรวมลดลง คือ 1. การย้ายฐานการบินของกลุ่มแอร์เอเชียจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้โดยสาร Express Line หายไป และส่วนหนึ่งหันไปใช้ City Line ในช่วงเวลาที่เก็บค่าโดยสาร 20 บาทแทน 2. โรงเรียนปิดเทอม ดังนั้นจึงต้องดูตัวเลขจำนวนผู้โดยสารในเดือนพฤศจิกายนอีกครั้งซึ่งโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร
“เดือนตุลาคมผู้โดยสารรวมลดลงไปวันละประมาณ 3,000 คน ซึ่งต้องรอผลการทดลองเก็บค่าโดยสาร 20 บาทให้ครบ 3 เดือนก่อน ( 30 ก.ย.- 31 ธ.ค. 2555) จากนั้นจะมีการสรุปว่าจะขยายเวลาหรือช่วงเวลาค่าโดยสาร 20 บาทหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าการเดินทางโดยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เป็นทางเลือก จะใช้เมื่อมีความจำเป็น”นายภากรณ์กล่าว
ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารที่ลดลงส่งผลให้รายได้ในเดือนตุลาคมลดลงรวมประมาณ 4 ล้านบาท แบ่งเป็นขบวน Express Line ประมาณ 2 ล้านบาท City Line ประมาณ 2 ล้านบาท เนื่องจากค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายจะคุ้มทุนได้จำนวนผู้โดยสารจะต้องเพิ่มขึ้น 50-60% หรือเพิ่มขึ้นจากปกติ 5,800 คนเป็น 8,000 คน
ส่วนการจัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินประมาณ 5,200 ล้านบาทนั้น นายภากรณ์กล่าวว่า คาดว่าจะได้รับการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ โดยอยู่ระหว่างสอบถามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะใช้เวลาในการจัดหาประมาณ 3 ปีครึ่ง ดังนั้น ในระหว่างนี้เพื่อแก้ปัญหาช่วงเวลาเร่งด่วน (06.30-09.00 น.) ที่มีผู้โดยสารจำนวนมากและแออัดนั้น ได้นำรถขบวน Express ปรับมาให้บริการเป็นขบวน City Line ทำให้เพิ่มความถี่และลดระยะห่างเหลือ 12 นาทีต่อขบวน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนรถ Exprees มาวิ่งเป็น City ทั้งหมด เป็นการชั่วคราวเพื่อเพิ่มความถี่ในระหว่างรอการจัดซื้อขบวนรถเพิ่ม ซึ่งขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของระดับนโยบายว่าจะดำเนินการหรือไม่ ในขณะที่ทางเทคนิคไม่มีปัญหา เพียงแต่การไม่มีรถ Express วิ่งจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของแอร์พอร์ตที่มี 2 ระบบเท่านั้น
