สนพ.-กฟผ.ต่างยอมรับว่าทิศทางค่าไฟในไทยยังคงเป็นขาขึ้นอีกในปีหน้าตามทิศทางราคาน้ำมันโลกผสมกับภาระที่ยังค้างหนี้เก่า กฟผ.อีกหมื่นล้านบาท และอนาคตจนสิ้นสุดแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือ PDP ฉบับปรับปรุงใหม่ในปี 2573 จะดันให้ค่าไฟขยับเพิ่มเป็นเท่าตัวหรือไปอยู่ในระดับ 6 บาท/หน่วย เพราะไทยต้องนำเข้าแอลเอ็นจีถึง 30 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 2 ล้านล้านบาท เมื่ออิงราคาในขณะนี้
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยในงานสัมมนา Energy Symposium 2012 เรื่อง “ทิศทางพลังงานไทยภายใต้ AEC” ว่า สิ่งที่น่าจับตามอง คือ ขณะนี้ก๊าซธรรมชาติในไทยมีจำกัดขณะที่ความต้องการใช้เริ่มสูงขึ้นโดยปัจจุบันไทยใช้ก๊าซฯ อยู่ 4,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดย 1,000 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวันเป็นการนำเข้าจากพม่า ทำให้ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาตเหลว (แอลเอ็นจี) จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และคาดว่าเมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3) ในปี 2573 ไทยจะต้องนำเข้าแอลเอ็นจีถึง 30 ล้านตัน ซึ่งหากอิงราคาในขณะนี้จะคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านบาท และเมื่อคำนวณย้อนกลับไปเป็นค่าไฟฟ้าจะทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปัจจุบันหรือไม่ต่ำกว่า 6 บาทต่อหน่วย
“จากแผนพีดีพีเราคาดว่าไทยจะใช้ก๊าซฯ ทั้งสิ้นถึง 7,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งด้วยแหล่งก๊าซฯ ที่จำกัดลงทำให้เราต้องพึ่งการนำเข้าจากต่างประเทศในรูปของแอลเอ็นจี ซึ่งขณะนี้ บมจ.ปตท.ได้เริ่มนำเข้ามาแล้วเฟสแรกก่อน 5 ล้านตัน เพื่อใช้ในระยะ 2-3 ปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 10 ล้านตันในปี 2562 และปี 2573 เป็น 30 ล้านตัน ซึ่งรัฐเองก็พยายามส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและนิวเคลียร์เข้ามาถ่วงสมดุลในระยะยาว แต่ยอมรับว่ายังถูกประชาชนคัดค้านจึงพยายามทำความเข้าใจโดยเฉพาะอยากเห็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดก่อนตามแผน” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ ฉิมคล้าย ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ Ft ในรอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. 55 ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ปรับขึ้น 18 สตางค์ต่อหน่วยยังไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพราะกฟผ.ยังคงแบกรับภาระอยู่ 10,504 ล้านบาทซึ่งภาระดังกล่าวจะต้องทยอยเรียกคืน ดังนั้นค่าไฟฟ้าในปี 2556 จึงเป็นขาขึ้นตลอดปีหากจะทยอยใช้หนี้ กฟผ.ให้หมด
“คงต้องดูทิศทางราคาน้ำมันที่จะมีผลต่อราคาก๊าซฯ ในอนาคตด้วย แต่หากมองในขณะนี้ภาพรวมราคาน้ำมันก็ยังคงทรงตัวในระดับสูงเมื่อรวมกับภาระที่มีอยู่โอกาสเห็นการลดลงน้อยมาก และก็อยู่กับเรกูเลเตอร์จะพิจารณาแต่ต้องยอมรับว่าภาระดังกล่าวถึงที่สุดประชาชนก็จะต้องจ่ายคืนอยู่ดี เพียงแต่เราจะเลือกแบบไหนเราจะเลือกอดเปรี้ยวไว้กินหวาน หรืออดหวานแล้วไปกินเปรี้ยว” นายสุเทพกล่าว