สมาคมเพื่อนชุมชนเปิดรับสมาชิกเพิ่มอีก 7 รายผนึกกับ 5 กลุ่มผู้ก่อตั้งได้แก่ ปตท. เอสซีจี บีแอลซีพี ดาวเคมิคอล และโกลว์ หวังขยายเครือข่ายมุ่งยกระดับโรงงานสีเขียวคุมเข้มคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชนในพื้นที่มาบตาพุดก้าวสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Industrial Town โดยเร็ว
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ นายกสมาคมเพื่อนชุมชน กล่าวในงานแถลงข่าวครบรอบ 2 ปี ก้าวสู่ปีที่ 3 ของสมาคมเพื่อนชุมชนเมื่อเร็วๆนี้ว่า เป้าหมายของสมาคมเพื่อนชุมชนมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริการจัดการสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนที่ดีขึ้นเพื่อให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเป็นต้นแบบเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrail Town) ของประเทศไทยโดยเร็ว
“เป้าหมายของเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์คือ การที่โรงงานทุกแห่งมีการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดีหรือเป็นโรงงานสีเขียวทั้งหมดกล่าวคือ ของเสียจะต้องปล่อยออกมาให้น้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ชุมชนมีสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพสามารถอยู่ร่วมกันภาคการผลิตแบบยั่งยืน”นายอนนต์กล่าว
สมาคมเพื่อนชุมชนเกิดจากการรวมตัวของ 5 กลุ่มบริษัท ได้แก่กลุ่มปตท.เอสซีจี บีแอลซีพี ดาวเคมิคอล และโกลว์ ซึ่งได้ดำเนินงานมาครบ ปีและกำลังก้าวสู่ปีที่ 3 ด้วยการเปิดรับสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก 7 รายได้แก่ บริษัท วีนีไทย จำกัด(มหาชน) บริษัทกรุงเทพซินธิติกส์ จำกัด บริษัทบางกอกอินดัสเตรียลแก๊ส จำกัด บริษัทผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัท เอบีบี จำกัด บริษัทลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทพีทีทีฟีนอล จำกัด ซึ่งจะก่อให้เกิดเครือข่ายในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่เข้มแข็งขึ้นในระยะยาว
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า เป้าหมายที่สำคัญของสมาคมเพื่อนชุมชนคือจะต้องลดช่องว่างระหว่างชุมชนกับผู้ประกอบการให้มากขึ้นเพราะอดีตผู้ประกอบการคิดว่าการดูแลสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของรัฐบาลเพราะเอกชนเสียภาษีไปแล้วซึ่งกลไกของรัฐไม่สามารถครอบคลุมได้ ดังนั้นผู้ประกอบการที่มีขนาดโรงงานไม่ใหญ่มาก ก็จะไม่รู้ขอบเขตในเรื่องของการบริหารจัดการในเรื่องนี้สมาคมฯก็พยายามหาแนวทางบริหารจัดการให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็นับว่าเป็นแนวทางที่ดีพอสมควรในการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้เป็นอย่างดี
นายชลณัฐ ญาณารณพ รองนายกสมาคมเพื่อนชุมชน กล่าวว่าการดำเนินงานในช่วง 2 ปี เราได้สร้างความร่วมมือในแบบ เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเครื่องมือที่จะช่วยกันดูแลให้การดำเนินงานมีความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งบริษัทต่างๆ ก็ได้ยกระดับการดูแลสิ่งแวดล้อมในกิจกรรมหลายๆ ด้าน ได้แก่ ตั้งเป้าหมายลดของเสียจากโรงงานให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) ควบคุมสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs ) โดยเปลี่ยนระบบการรับส่งน้ำมันและสาไฮโดรคาร์บอน และมีการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุม VOCs เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมเปิดบ้านให้ชุมชนเข้าเยี่ยมชมโรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนได้รับรู้