00 ดิ้นกันพล่านสำหรับพวก “หัวโจกเสื้อแดง” ค้าม็อบ หลังจากที่ ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์ประกาศต่อหน้ามวลชนในโอกาสครบรอบ 2 ปีเผาเมือง ให้ “ลืมอดีต” เลิกแล้วต่อกัน อ้างเพื่อเดินไปข้างหน้า ขณะเดียวกันวาทะเด็ดก็คือ “ขอบคุณที่แจวเรือมาส่ง ต่อไปจะขับรถขึ้นเขาไปเอง” ความหมายก็ คือมาส่งถึงฝั่งแล้วก็ตัวใครตัวมัน ทางใครทางมัน ไปละ กิ้ว กิ้ว !!
00 จะว่าพลั้งปากก็ไม่ใช่แน่นอน เพราะเป็นการพูดที่ค่อนข้างยาว เป็นการเตรียมการมาพูด มีถ้อยคำต่อเนื่อง และที่สำคัญเป็นคำพูดในความหมายเดียวกันกับที่เคยพูดที่ลาว และเขมร เมื่อช่วงสงกรานต์ จำได้หรือไม่ว่า ทักษิณ เคยเรียกร้องให้บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สื่อสารไปถึง พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของพยาบาลอาสาของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตในวัดปทุมฯ ให้เสียสละ เพื่อเดินไปข้างหน้า หลังจากที่เริ่มมีความพยายามจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ทุกฝ่ายพ้นผิด แต่มีวาระซ่อนเร้นคือ ให้ เขาได้ประโยชน์นั่นเอง
00 การวิดีโอลิงก์เข้ามาครั้งล่าสุดในวันครบรอบ 2 ปี ลักษณะก็ไม่ต่างจากบรรยากาศการประชุมใหญ่ที่ ทักษิณ ต้องการสื่อสารกับสาวกโดยตรง ท่าทีที่ต้องการแสดงให้เห็นก็คือ ให้มวลชนตัดสินใจเลือกทางเดินคือ หนึ่งเดินตามหลังเขาต่อไป แต่ห้ามถาม ห้ามเถียง ก้มหน้าให้จูงจมูกอย่างเดียว และ สองถ้าเห็นต่างก็แยกทางไปต่างหาก เชิญตามสะดวก ซึ่งท่าทีไม่แคร์ที่แสดงออกมาแบบนี้ก็คงมั่นใจว่า คนเสื้อแดงเกือบทั้งหมด “มาเพราะเขา” เป็นมวลชนที่หลงใหลในประชานิยมและการโฆษณาชวนเชื่อของเขา นาทีนี้ก็ต้องการพิสูจน์เหมือนกัน
00 อย่าได้แปลกใจที่บรรดาหัวโจกแดงที่หากินกับม็อบมานานจะรู้สึกหวั่นใจ หลังจากที่ แม้ว พ่นน้ำลายออกไป เพราะเท่าที่เห็นอารมณ์กราดเกรี้ยวของพวก “แดงเห็บ” ที่เคยเข้ามาเกาะเกี่ยวกระแสทักษิณ อย่างพวกนักวิชาการแดงบางคน อย่าง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ใจ อึ๊งภากรณ์ พวกนี้โวยวายลั่น เพราะต่อไปจะต้องเดินกันคนละทางแล้ว และดีไม่ดี หากยังไม่หุบปากก็อาจเจอดี ถูกแม้วสั่งให้ดำเนินคดี ม.112 จับยัดคุกก็เป็นได้
00 นี่ขนาดมีหลักฐานทั้งภาพและเสียงได้ยินไปทั่ว และคำพูดของ แม้ว ก็ไม่เห็นต้องตีความให้ปวดหัว ไม่มีอะไรซับซ้อน เข้าใจง่าย ก็บอกโต้งๆ อยู่แล้วว่าให้ปรองดองกับทุกฝ่าย เลิกแล้วต่อกัน ทำนองว่า “พวกมึงเงียบหน่อยได้มั๊ย กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” ทุกอย่างกำลังเดินไปได้สวย กูจะเอาแบบนี้ เพราะกูได้ประโยชน์ แต่ถ้ามึงไม่เชื่อ ไม่ฟังกู พวกมึงก็ไปให้ไกลๆ เพราะที่ผ่านมาพวกมึงก็มาเกาะหลังจนรำคาญเต็มทีแล้ว ความหมายประมาณนี้แหละ แต่คนที่เดือดร้อนหนักก็เห็นจะเป็นพวกหัวโจก ประเภท “สู้แล้วรวย สู้แล้วเป็นอำมาตย์” อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือแม้แต่ “ทนายรับจ้าง” นพดล ปัทมะ ต้องเดือดร้อน เพราะถ้าแดงแตกกันเละ คนพวกนี้ก็หากินไม่ได้ ไม่มีพาวเวอร์ อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็ต้องโน่นเลยปลายแถว นี่แหละถึงเป็นสาเหตุต้องร้อนตัว รีบออกมาบิดเบือนมั่วๆ อย่างที่เห็น !!
00 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนความมั่ว ความชุ่ย ของคนในรัฐบาลเพื่อไทย ล่าสุดเกิดขึ้นที่กระทรวงศึกษาฯ ที่มี รมว.ชื่อ สุชาติ ธาดาธำรงเวช คนที่ชอบให้คนอื่นเรียกว่า ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามีปมด้อยอะไรนักหนา แต่พอหันไปมองการบริหาร กลับมีแต่เรื่อง “ห่วยแตก” สร้างความสับสนให้วงการศึกษาฯ ด้วยนโยบายหลุดโลก หนุน “แป๊ะเจี๊ยะบนดิน” จะด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า ทำให้เด็กนักเรียนบดินทรฯ ต้องออกมาอดอาหารประท้วงที่ไม่ได้เรียนต่อ ม.4 แม้เรื่องราวยังไม่ต้องพูดถึงบทสรุปถูกผิด แต่การออกมาแถลงว่า สาเหตุที่เด็กเหล่านั้นออกมาประท้วง เป็นเพราะมี “การเมืองแทรกแซง” เป็นการพูดที่ทุเรศ มักง่ายที่สุด แต่อีกด้านหนึ่งนี่คือการประจานระดับปัญญาของรมต.กระทรวงนี้ได้ดีที่สุด... ทุด !!
00 จะว่าพลั้งปากก็ไม่ใช่แน่นอน เพราะเป็นการพูดที่ค่อนข้างยาว เป็นการเตรียมการมาพูด มีถ้อยคำต่อเนื่อง และที่สำคัญเป็นคำพูดในความหมายเดียวกันกับที่เคยพูดที่ลาว และเขมร เมื่อช่วงสงกรานต์ จำได้หรือไม่ว่า ทักษิณ เคยเรียกร้องให้บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ สื่อสารไปถึง พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของพยาบาลอาสาของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตในวัดปทุมฯ ให้เสียสละ เพื่อเดินไปข้างหน้า หลังจากที่เริ่มมีความพยายามจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ทุกฝ่ายพ้นผิด แต่มีวาระซ่อนเร้นคือ ให้ เขาได้ประโยชน์นั่นเอง
00 การวิดีโอลิงก์เข้ามาครั้งล่าสุดในวันครบรอบ 2 ปี ลักษณะก็ไม่ต่างจากบรรยากาศการประชุมใหญ่ที่ ทักษิณ ต้องการสื่อสารกับสาวกโดยตรง ท่าทีที่ต้องการแสดงให้เห็นก็คือ ให้มวลชนตัดสินใจเลือกทางเดินคือ หนึ่งเดินตามหลังเขาต่อไป แต่ห้ามถาม ห้ามเถียง ก้มหน้าให้จูงจมูกอย่างเดียว และ สองถ้าเห็นต่างก็แยกทางไปต่างหาก เชิญตามสะดวก ซึ่งท่าทีไม่แคร์ที่แสดงออกมาแบบนี้ก็คงมั่นใจว่า คนเสื้อแดงเกือบทั้งหมด “มาเพราะเขา” เป็นมวลชนที่หลงใหลในประชานิยมและการโฆษณาชวนเชื่อของเขา นาทีนี้ก็ต้องการพิสูจน์เหมือนกัน
00 อย่าได้แปลกใจที่บรรดาหัวโจกแดงที่หากินกับม็อบมานานจะรู้สึกหวั่นใจ หลังจากที่ แม้ว พ่นน้ำลายออกไป เพราะเท่าที่เห็นอารมณ์กราดเกรี้ยวของพวก “แดงเห็บ” ที่เคยเข้ามาเกาะเกี่ยวกระแสทักษิณ อย่างพวกนักวิชาการแดงบางคน อย่าง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ใจ อึ๊งภากรณ์ พวกนี้โวยวายลั่น เพราะต่อไปจะต้องเดินกันคนละทางแล้ว และดีไม่ดี หากยังไม่หุบปากก็อาจเจอดี ถูกแม้วสั่งให้ดำเนินคดี ม.112 จับยัดคุกก็เป็นได้
00 นี่ขนาดมีหลักฐานทั้งภาพและเสียงได้ยินไปทั่ว และคำพูดของ แม้ว ก็ไม่เห็นต้องตีความให้ปวดหัว ไม่มีอะไรซับซ้อน เข้าใจง่าย ก็บอกโต้งๆ อยู่แล้วว่าให้ปรองดองกับทุกฝ่าย เลิกแล้วต่อกัน ทำนองว่า “พวกมึงเงียบหน่อยได้มั๊ย กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม” ทุกอย่างกำลังเดินไปได้สวย กูจะเอาแบบนี้ เพราะกูได้ประโยชน์ แต่ถ้ามึงไม่เชื่อ ไม่ฟังกู พวกมึงก็ไปให้ไกลๆ เพราะที่ผ่านมาพวกมึงก็มาเกาะหลังจนรำคาญเต็มทีแล้ว ความหมายประมาณนี้แหละ แต่คนที่เดือดร้อนหนักก็เห็นจะเป็นพวกหัวโจก ประเภท “สู้แล้วรวย สู้แล้วเป็นอำมาตย์” อย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือแม้แต่ “ทนายรับจ้าง” นพดล ปัทมะ ต้องเดือดร้อน เพราะถ้าแดงแตกกันเละ คนพวกนี้ก็หากินไม่ได้ ไม่มีพาวเวอร์ อยู่ในพรรคเพื่อไทยก็ต้องโน่นเลยปลายแถว นี่แหละถึงเป็นสาเหตุต้องร้อนตัว รีบออกมาบิดเบือนมั่วๆ อย่างที่เห็น !!
00 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนความมั่ว ความชุ่ย ของคนในรัฐบาลเพื่อไทย ล่าสุดเกิดขึ้นที่กระทรวงศึกษาฯ ที่มี รมว.ชื่อ สุชาติ ธาดาธำรงเวช คนที่ชอบให้คนอื่นเรียกว่า ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามีปมด้อยอะไรนักหนา แต่พอหันไปมองการบริหาร กลับมีแต่เรื่อง “ห่วยแตก” สร้างความสับสนให้วงการศึกษาฯ ด้วยนโยบายหลุดโลก หนุน “แป๊ะเจี๊ยะบนดิน” จะด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่า ทำให้เด็กนักเรียนบดินทรฯ ต้องออกมาอดอาหารประท้วงที่ไม่ได้เรียนต่อ ม.4 แม้เรื่องราวยังไม่ต้องพูดถึงบทสรุปถูกผิด แต่การออกมาแถลงว่า สาเหตุที่เด็กเหล่านั้นออกมาประท้วง เป็นเพราะมี “การเมืองแทรกแซง” เป็นการพูดที่ทุเรศ มักง่ายที่สุด แต่อีกด้านหนึ่งนี่คือการประจานระดับปัญญาของรมต.กระทรวงนี้ได้ดีที่สุด... ทุด !!