xs
xsm
sm
md
lg

ถูกต้องแล้วที่ “แม้ว” ถีบเรือแดงทิ้ง ปล่อยไว้นานจะเป็นภัยกับตัวเอง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

อย่าเพิ่งเบื่อจนอ้วกเสียก่อน ขอต่ออีกสักวันเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นกระบวนความกับท่าทีล่าสุดของทักษิณ ชินวัตร ที่สรุปโดยรวมก็คือกำลังสลัดคนเสื้อแดงทิ้งหลังจากแจวเรือฝ่าคลื่นลม จนหลายคนต้องบาดเจ็บล้มตาย จนมาส่งถึง “ฝั่งอำนาจ” เรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปก็จะขับรถขึ้นเขาไปสู่เป้าหมายด้วยตัวเองต่อไป

ความหมายเป็นแบบนี้จริงๆ แต่คนที่กำลังดิ้นพล่านกันอยู่ในเวลานี้กลับกลายเป็นพวก “หัวโจก” คนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นพวกมีชื่อตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวที่ต่างออกมาแก้ต่างจนลิ้นพัน ขณะเดียวกันก็ใช้มุกเดิมๆ นั่นคือ โบ้ยไปให้คนอื่นหาว่าเป็นคนเสี้ยมให้ทักษิณแตกกับคนเสื้อแดง อะไรประมาณนั้น ทั้งที่มีหลักฐานทั้งคำพูดและเสียงได้ยินกันอยู่ทนโท่ คนที่ไม่เข้าใจก็น่าจะมีเพียงคนโง่กับพวกปัญญาอ่อนเท่านั้น

ที่ผ่านมาบรรดาหัวโจกเหล่านี้ก็มักใช้วิธีบิดเบือนโยนความผิดให้กับคนอื่นแบบมักง่ายเสมอ แต่หากจวนตัวดิ้นไม่ออกก็บอกหน้าตาเฉยว่า “แดงเทียม” ซึ่งมีให้เห็นตลอด

ท่าทีของทักษิณหากย้อนกลับไปถือว่าเป็นการส่งสัญญาณซ้ำๆ กันไม่ต่ำกว่าสามครั้ง ไม่มีทางเข้าใจผิด หรือไม่ตั้งใจพูดอย่างที่บรรดาหัวโจกกำลังบิดออกไปให้ผิดเพี้ยนอย่างแน่นอน เพราะเป็นคำพูดที่มีความหมายเดียวกับคำพูดที่ลาวและเขมรเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ความหมายเดียวกันเปะ

นั่นคือให้ลืมอดีตแล้วก้าวข้ามความขัดแย้งไปข้าง หรือคนส่วนน้อยต้องเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ และที่สำคัญยังย้ำว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และกราบอวยพรขอให้มีสุขภาพดี และจากนั้นผ่านมาไม่กี่วันในช่วงเดือนเมษายน นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของตัวเองก็นำทีมรองนายกรัฐมนตรีเข้าบ้านสี่เสาฯ แต่มีเพียงนายกฯเท่านั้นที่แอบเข้าหารือลับสองต่อสองเป็นเวลานานเกือบชั่วโมง

คราวนั้นพวกเสื้อแดงบางส่วนก็เริ่มเหลืออดโวยวายกันลั่น หรือแม้แต่บรรดาญาติคนเสื้อแดงผู้เสียชีวิตก็หัวเสียคัดค้านการนิรโทษฯ ให้กับทุกฝ่าย ทักษิณ ก็ออกมาบอกว่าให้เสียสละ ซึ่งหากปะติดปะต่อ ร้อยเรียงกันเป็นลำดับแล้วมันไม่ใช่หลุดปากพูด หรือเข้าใจกันผิดแน่นอน ในทางตรงกันข้ามเป็นการตั้งใจพูด เหมือนกับการเรียกประชุมใหญ่คนเสื้อแดงใช้โอกาสพิเศษครบรอบ 2 ปีแถลงให้ทราบ เพียงแต่ว่า ทักษิณ ไม่ได้เตี๊ยมหรือปรึกษาหารือกับพวกหัวโจกบนเวทีมาก่อน เพราะถึงอย่างไรคนพวกนี้ก็ไร้ความหมายเป็นเพียงแค่ “ลูกจ้างกระจอกๆ” เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้ยินการปราศรัยบริภาษด่าอำมาตย์เหยงๆ อยู่เลย แต่ผ่านไปไม่กี่นาทีเมื่อได้ยิน ทักษิณ วิดีโอลิงก์สั่งให้ปรองดองจูบปากกับอำมาตย์ให้ลืมอดีต เลิกแล้วต่อกัน อย่า “ขัดแย้งแบบปัญญาอ่อน” อีกต่อไป ทำให้คนพวกนี้ยืนเซ่อ ไปไม่เป็น

อย่างไรก็ดี คนที่กังวลว่าจะเสียมวลชนแดงมากที่สุดก็กลายเป็นพวกหัวโจกนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, เหวง โตจิราการ, ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ที่ทำมาหากินได้ดิบได้ดีจากการเคลื่อนไหว คนพวกนี้ต่างหากที่เสียประโยชน์ สูญเสียอิทธิพล ขณะที่ ทักษิณ กลับมั่นใจว่าเขาไม่ได้เสียอะไรมาก เพราะยังมีมวลชนที่หลงใหลเสพติดประชานิยม ตราบใดที่ยังกุมอำนาจรัฐ ก็ยังสามารถปล่อยล็อตใหม่ออกมาได้ตลอดเวลา ในทางตรงกันข้ามนี่คือการสลัดพวกแดงที่เข้ามาเกาะเกี่ยวแบบไม่ต้องลงทุน จะได้แยกออกไปอีกทางหนึ่งในคราวเดียว

แดงเทียมดังกล่าวนอกเหนือจากนักวิชาการหลายคนแล้ว อาจยังหมายรวมถึง ธิดา-เหวง ด้วยก็ได้ เพราะหากย้อนกลับไปพิจารณาถึงแนวทางการเคลื่อนไหวตั้งแต่อดีตตั้งแต่เคยเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนกระทั่งขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่า ทักษิณ ว่าขายชาติ โกงชาติ และมาถึงเป็นหัวโจกคนเสื้อแดงเป็นลูกน้องหน้าตาเฉย มองกันอย่างตรงไปตรงมาถือว่าไม่ต่างกับเห็บหมัดที่มาเกาะหลังทักษิณเท่านั้น ไม่ได้มีพลังในตัวเอง คนแบบนี้ทักษิณไม่แคร์ ไม่ให้ราคา

แม้ว่าที่ผ่านมามีหัวโจก อย่างเช่น ธิดา ที่กำลังเอาจริงเอาจังกับ “หมู่บ้านแดง” ต้องการขยายให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ถามตรงๆ ว่าลึกๆ แล้ว ทักษิณ มีความชอบใจหรือไม่ เปล่าเลย เพราะการสร้างฐานมวลชนแบบนี้ในภายหน้ารังแต่เพิ่มความเสี่ยงให้กับรัฐบาล เพิ่มพลังต่อรองสร้างอิทธิพลให้กับบรรดาหัวโจกทั้งในส่วนกลางและตามต่างจังหวัด ที่สำคัญเขา “ต้องจ่าย” ต้องรำคาญไม่เลิก อีกทั้งการขยายฐานมวลชนแบบนี้มันคือยุทธศาสตร์ของพวกซ้าย ซึ่งโดยธรรมชาติก็ไปกันไม่ได้อยู่แล้วกับพวก “ทุนสามานย์” ดังนั้นเมื่อเห็นภัยอยู่ตรงหน้า เมื่อได้จังหวะก็ย่อมแยกสลาย แม้รู้ดีว่าต้องเสียการสนับสนุนไปบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นแค่ส่วนน้อย อย่างไรก็ดีปัญหาที่น่าวิตกมากที่สุดก็คือผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มากกว่า เพราะนี่คือของจริง

ดังนั้น หากให้สรุปจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ ทักษิณ ต้องรีบถีบหัวเสื้อแดงทิ้งไป โดยต้องการให้เหลือแค่พวกสาวกที่ชี้นิ้วสั่งการได้แบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ประเภทแดงอุดมการณ์มีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบซักถามจู้จี้กวนใจประเภทขอให้ไปไกลๆ เพราะไม่ต้องการ อีกทั้งเมื่อแจวเรือมาส่งถึงฝั่งแล้ว ตอบแทนกันบ้างตามสมควร ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไป แต่มีเพียงพวกหัวโจกเท่านั้นที่กลัวว่าจะกระทบ เพราะต้องเสียมวลชนทำให้ตัวเองไม่มีพลังต่อรอง ไม่มีความหมาย!!
กำลังโหลดความคิดเห็น