**ถ้อยคำของ ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์ เข้ามายังเวทีคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ ในโอกาสชุมนุมป่วนเมืองครบรอบ 2 ปี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ได้แสดงให้เห็นอาการร้อนรนจนผิดปกติ ลักษณะโดยรวมเหมือนกับต้องการประคองสถานการณ์ให้ “นิ่ง” มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ ทักษิณได้ย้ำว่า ต้องเชิดชู เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่า ต้องรักษาสถาบันฯนี้ไว้ เพราะเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ จะทำให้คนในชาติมีความปรองดองกัน หันหน้าเข้าหากัน
ขณะเดียวกันทักษิณ ยังได้แก้ต่างให้กับรัฐบาล เพื่อลดความไม่พอใจของมวลชนคนเสื้อแดง ในกรณีความล่าช้าของคดีความที่เกี่ยงข้องกับคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วในยุครัฐบาลที่แล้ว ที่ดูเหมือนเป็นประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้แล้วเป็นเผด็จการ จะตัดสินคดีอย่างไรก็ได้ ทำให้เร็ว แต่ในรัฐบาลปัจจุบัน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย อ้างว่าต้องรอบคอบจึงทำให้เกิดความล่าช้า
ที่สำคัญในคำพูดคราวนี้ของเขา เหมือนกับใช้ตัวเขามาต่อรองกับมวลชนคนเสื้อแดงในทำนองว่า ถ้าไม่อยากให้เขาอยู่ข้างนอกตลอดไป ก็ต้องปรองดอง เพราะหมดเวลาทะเลาะกัน ต้องลืมอดีต และมองไปข้างหน้า พร้อมเรียกร้องให้การสนับสนุนเอาใจช่วยรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไป เหมือนกับล็อกมวลชนเอาไว้ให้นานที่สุด และนิ่งที่สุด
น่าสนใจก็คือคำพูดดังกล่าว ยังได้ออกตัวเสร็จสรรพว่า คำพูดที่ให้ปรองดอง ได้สร้างความไม่พอใจกับคนเสื้อแดงบางกลุ่มในความหมายก็คือ การเข้าไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสา เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ความหมายก็คือการ “จูบปาก” กับอำมาตย์ โดยเขาอ้างว่า บางอย่าง “พูดไม่ได้” ทำให้ดูเป็นปริศนา มีความจำเป็นบางอย่างที่เปิดเผยไม่ได้ ขอให้เห็นใจ อะไรประมาณนั้น
หากประเมินจากสถานการณ์โดยรวม เท่าที่จับอาการได้เวลานี้ ทักษิณ กำลังเร่งมืออย่างสุดกำลังเพื่อให้เป้าหมายที่ตัวเองวางเอาไว้สำเร็จให้ได้ ซึ่งถ้าพิจารณาเท่าที่เป็นอยู่ ก็มีเฉพาะงานใหญ่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังคืบหน้าไปเรื่อยๆ และขั้นตอนต่อไปก็คือ การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมล้างความผิด ที่กำลังตามมาติดๆ อีกไม่นานข้างหน้า โดยเฉพาะในสมัยประชุมหน้า ทุกอย่างกำลังเข้าได้เข้าเข็ม เดินไปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากอาการภายนอกเวลานี้ โดยเฉพาะสถานการณ์ของรัฐบาลน้องสาวตัวเองที่เริ่มมี “อาการไม่ดี” เนื่องจากทำผลงานทุกด้านได้น่าผิดหวัง ไม่สมราคาคุย โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี ที่เป็นน้องสาวของตัวเองนั่นแหละ ทำผลงานได้ “น่าผิดหวัง” อย่าไม่น่าเชื่อ
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาค่าครองชีพที่ทำให้ชาวบ้านรากหญ้าที่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นคนกันเองต้องเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อะไรที่เคยง่าย พูดแล้วหลงเคลิบเคลิ้ม มีความหวัง แต่ตราบใดที่เดือดร้อน ข้าวยากหมากแพงอยู่แบบนี้อยู่ตลอดเวลามันก็คงไม่สนุกนักหรอก
แม้ว่าคราวนี้ ทักษิณ จะพยายามกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้กับบรรดาญาติผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ของง่าย และที่สำคัญ เงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเอาไว้ในวงเงินสำหรับผู้เสียชีวิตจำนวนรายละ 7.75 ล้านบาท มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก
**เพราะล่าสุดคณะกรรมการปรองดองที่มี คณิต ณ นคร เป็นประธาน มีการศึกษาข้อมูลเปรียบกับต่างประเทศ มีการนำรายได้ การสูญเสียโอกาส มาคิด มาคูณ ทำให้ยอดเงินลดลงมาเหลือแค่ไม่เกินรายละ 3.2 ล้านบาท ก็ทำเอาหัวเสียกันไปตามๆ กัน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มกังวลก็คือ การลุกขึ้นมาขัดขวางทุกทางในแบบย้อนศร ของฝ่ายประชาธิปัตย์ ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ใช้เครื่องมือในแบบเดียวกันเอาคืนทุกพื้นที่ เริ่มตั้งแต่การมี “ทีวีสีฟ้า” ทักษิณ มี “สามเกลอหัวขวด” ฝ่ายสุเทพ ก็มี “สายล่อฟ้า” เอาคืนทุกดอก ทักษิณ มีการชุมนุมคนเสื้อแดง ฝ่ายสุเทพ และประชาธิปัตย์ ก็เริ่มเดินสายตั้งเวทีปราศรัยต่อต้านรัฐบาล และต้านแก้ไขรัฐธรรมนูญทั่วประเทศ รวมทั้งเปิดโปง แก้ต่างในทุกเรื่อง แลกกันแบบหมัดต่อหมัด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี่แหละ ที่ทำให้ความหวังของ ทักษิณ ในทุกเรื่องเริ่มยากมากขึ้น มีคนรู้ทัน และต่อต้านมากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างความผิด จะกลายเป็นงานหิน เริ่มเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเขาก็ย่อมรู้ดี เพราะเคยเดินเกมแบบเดียวกันมาก่อน
เมื่อพิจารณาจากปรากฏการณ์ และปัญหาจากคนรู้ทัน และคนต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆดังกล่าว ซึ่งไม่เว้นแม้แต่คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ที่เริ่มไม่พอใจกับการปรองดองกับอำมาตย์และการหักหลัง ไม่แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมไปถึงการลอยแพมวลชนระดับรากหญ้า ที่ติดคุกเดือดร้อนกันทั่วประเทศ ทำให้เขาต้องไหวตัว “ต้องตีสองหน้า” เอาใจทุกฝ่าย ลดความก้าวร้าว หวังประคองสถานการณ์ให้นิ่ง ซื้อเวลาให้รัฐบาลน้องสาวตัวเองอยู่ให้นานที่สุด
**อย่างน้อยก็ให้ภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปเสียก่อน เมื่อ “ปลดล็อก” ให้ตัวเองตรงนี้ได้แล้วถึงค่อยมาว่ากันถึงเรื่องอื่น !!
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ ทักษิณได้ย้ำว่า ต้องเชิดชู เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่า ต้องรักษาสถาบันฯนี้ไว้ เพราะเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ จะทำให้คนในชาติมีความปรองดองกัน หันหน้าเข้าหากัน
ขณะเดียวกันทักษิณ ยังได้แก้ต่างให้กับรัฐบาล เพื่อลดความไม่พอใจของมวลชนคนเสื้อแดง ในกรณีความล่าช้าของคดีความที่เกี่ยงข้องกับคนเสื้อแดง โดยอ้างว่า เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วในยุครัฐบาลที่แล้ว ที่ดูเหมือนเป็นประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้แล้วเป็นเผด็จการ จะตัดสินคดีอย่างไรก็ได้ ทำให้เร็ว แต่ในรัฐบาลปัจจุบัน เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย อ้างว่าต้องรอบคอบจึงทำให้เกิดความล่าช้า
ที่สำคัญในคำพูดคราวนี้ของเขา เหมือนกับใช้ตัวเขามาต่อรองกับมวลชนคนเสื้อแดงในทำนองว่า ถ้าไม่อยากให้เขาอยู่ข้างนอกตลอดไป ก็ต้องปรองดอง เพราะหมดเวลาทะเลาะกัน ต้องลืมอดีต และมองไปข้างหน้า พร้อมเรียกร้องให้การสนับสนุนเอาใจช่วยรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อไป เหมือนกับล็อกมวลชนเอาไว้ให้นานที่สุด และนิ่งที่สุด
น่าสนใจก็คือคำพูดดังกล่าว ยังได้ออกตัวเสร็จสรรพว่า คำพูดที่ให้ปรองดอง ได้สร้างความไม่พอใจกับคนเสื้อแดงบางกลุ่มในความหมายก็คือ การเข้าไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสา เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ความหมายก็คือการ “จูบปาก” กับอำมาตย์ โดยเขาอ้างว่า บางอย่าง “พูดไม่ได้” ทำให้ดูเป็นปริศนา มีความจำเป็นบางอย่างที่เปิดเผยไม่ได้ ขอให้เห็นใจ อะไรประมาณนั้น
หากประเมินจากสถานการณ์โดยรวม เท่าที่จับอาการได้เวลานี้ ทักษิณ กำลังเร่งมืออย่างสุดกำลังเพื่อให้เป้าหมายที่ตัวเองวางเอาไว้สำเร็จให้ได้ ซึ่งถ้าพิจารณาเท่าที่เป็นอยู่ ก็มีเฉพาะงานใหญ่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังคืบหน้าไปเรื่อยๆ และขั้นตอนต่อไปก็คือ การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมล้างความผิด ที่กำลังตามมาติดๆ อีกไม่นานข้างหน้า โดยเฉพาะในสมัยประชุมหน้า ทุกอย่างกำลังเข้าได้เข้าเข็ม เดินไปเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาจากอาการภายนอกเวลานี้ โดยเฉพาะสถานการณ์ของรัฐบาลน้องสาวตัวเองที่เริ่มมี “อาการไม่ดี” เนื่องจากทำผลงานทุกด้านได้น่าผิดหวัง ไม่สมราคาคุย โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี ที่เป็นน้องสาวของตัวเองนั่นแหละ ทำผลงานได้ “น่าผิดหวัง” อย่าไม่น่าเชื่อ
โดยเฉพาะการแก้ปัญหาค่าครองชีพที่ทำให้ชาวบ้านรากหญ้าที่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นคนกันเองต้องเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ซึ่งหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อะไรที่เคยง่าย พูดแล้วหลงเคลิบเคลิ้ม มีความหวัง แต่ตราบใดที่เดือดร้อน ข้าวยากหมากแพงอยู่แบบนี้อยู่ตลอดเวลามันก็คงไม่สนุกนักหรอก
แม้ว่าคราวนี้ ทักษิณ จะพยายามกระตุ้นให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้กับบรรดาญาติผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ของง่าย และที่สำคัญ เงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเอาไว้ในวงเงินสำหรับผู้เสียชีวิตจำนวนรายละ 7.75 ล้านบาท มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก
**เพราะล่าสุดคณะกรรมการปรองดองที่มี คณิต ณ นคร เป็นประธาน มีการศึกษาข้อมูลเปรียบกับต่างประเทศ มีการนำรายได้ การสูญเสียโอกาส มาคิด มาคูณ ทำให้ยอดเงินลดลงมาเหลือแค่ไม่เกินรายละ 3.2 ล้านบาท ก็ทำเอาหัวเสียกันไปตามๆ กัน
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร เริ่มกังวลก็คือ การลุกขึ้นมาขัดขวางทุกทางในแบบย้อนศร ของฝ่ายประชาธิปัตย์ ที่นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ใช้เครื่องมือในแบบเดียวกันเอาคืนทุกพื้นที่ เริ่มตั้งแต่การมี “ทีวีสีฟ้า” ทักษิณ มี “สามเกลอหัวขวด” ฝ่ายสุเทพ ก็มี “สายล่อฟ้า” เอาคืนทุกดอก ทักษิณ มีการชุมนุมคนเสื้อแดง ฝ่ายสุเทพ และประชาธิปัตย์ ก็เริ่มเดินสายตั้งเวทีปราศรัยต่อต้านรัฐบาล และต้านแก้ไขรัฐธรรมนูญทั่วประเทศ รวมทั้งเปิดโปง แก้ต่างในทุกเรื่อง แลกกันแบบหมัดต่อหมัด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี่แหละ ที่ทำให้ความหวังของ ทักษิณ ในทุกเรื่องเริ่มยากมากขึ้น มีคนรู้ทัน และต่อต้านมากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างความผิด จะกลายเป็นงานหิน เริ่มเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเขาก็ย่อมรู้ดี เพราะเคยเดินเกมแบบเดียวกันมาก่อน
เมื่อพิจารณาจากปรากฏการณ์ และปัญหาจากคนรู้ทัน และคนต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆดังกล่าว ซึ่งไม่เว้นแม้แต่คนเสื้อแดงบางกลุ่ม ที่เริ่มไม่พอใจกับการปรองดองกับอำมาตย์และการหักหลัง ไม่แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมไปถึงการลอยแพมวลชนระดับรากหญ้า ที่ติดคุกเดือดร้อนกันทั่วประเทศ ทำให้เขาต้องไหวตัว “ต้องตีสองหน้า” เอาใจทุกฝ่าย ลดความก้าวร้าว หวังประคองสถานการณ์ให้นิ่ง ซื้อเวลาให้รัฐบาลน้องสาวตัวเองอยู่ให้นานที่สุด
**อย่างน้อยก็ให้ภารกิจสำคัญเร่งด่วนที่วางเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปเสียก่อน เมื่อ “ปลดล็อก” ให้ตัวเองตรงนี้ได้แล้วถึงค่อยมาว่ากันถึงเรื่องอื่น !!