ทรูวิชั่นส์เฮ ถึงสิ้นปียึดฐานผู้ชมทั่วประเทศได้ร่วม 12 ล้านครัวเรือน หลังล่าสุดส่งช่องรายการส่งตรงถึงลูกค้าพีเอสไอทุกระบบที่มีฐานผู้ชมรวมกว่า 10.5 ล้านครัวเรือน มั่นใจเพิ่มฐานลูกค้าทรูวิชั่นส์แบบแพกเกจราคาเบาได้อีกร่วมหลักแสนกล่อง ส่งสิ้นปีทรูวิชั่นส์มีสมาชิกกว่า 2.2 ล้านครัวเรือน
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือกับทางพีเอสไอในการเปิดให้บริการกล่องพีเอสไอ ทรูเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทางทรูวิชั่นส์ได้นำเอาช่องคอนเทนต์ไปออกอากาศกับกล่องดังกล่าวกว่า 24 ช่องนั้น ซึ่งทางเทคนิคมองว่าทรูวิชั่นส์ยังสามารถนำเอาช่องคอนเทนต์เหล่านี้ไปออกอากาศกับฐานลูกค้าเดิมของทางพีเอสไอที่ดูผ่านกล่องระบบซีแบนด์ และเคยูแบนด์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ล่าสุดทางทรูวิชั่นส์จึงได้มีการร่วมมือกับพีเอสไออีกครั้งในการส่งช่องรายการไปนำเสนอในฐานลูกค้าของพีเอสไอที่ปัจจุบันกลุ่มจานรับสัญญาณแบบซีแบนด์มีฐานผู้ชมกว่า 10.5 ล้านครัวเรือน และกลุ่มจานรับสัญญานแบบเคยูแบนด์กับกล่องพีเอสไอ โอเค อีก 500,000 กล่อง ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์จะสามารถเข้าถึงฐานผู้ชมคนไทยได้อย่างก้าวกระโดดอีกกว่า 11 ล้านครัวเรือนทันที ทางพีเอสไอยังได้นำเอารีโมตที่มีเทคโนโลยีใหม่กับปุ่ม Smart move มาช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหาช่องรายการจากทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 300 ช่องในปัจจุบันที่รับชมได้ด้วย
เชื่อว่าอนาคตจะส่งผลให้ยอดขายของทางพีเอสไอเพิ่มขึ้นอีกมาก อีกทั้งยังส่งให้ทรูวิชั่นส์จะมีลูกค้าใหม่ที่สนใจเลือกใช้บริการแพกเกจทรูโนวเลจ และทรูไลฟ์พลัสเพิ่มเข้ามาอีกในหลักแสนกล่องแน่ หรือภายในสิ้นปีนี้ทรูวิชั่นส์มั่นใจว่าจะมีฐานสมาชิกรวมกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนได้
อย่างไรก็ตาม การนำช่องรายการไปออกอากาศในช่องทางของพีเอสไอครั้งนี้ ประกอบด้วย ช่องทางรับชมผ่านจานเคยูแบนด์ รับชมได้ 15 ช่อง เช่น True 10, TNN24, True Music, ThaiThai, Truelife TV, True Explore1 เป็นต้น ส่วนช่องทางซีแบนด์รับชมได้ 8 ช่อง เช่น True10, TNN24, Reality Channel, True Exlore1 เป็นต้น ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายองอาจกล่าวต่อว่า การร่วมมือกับพีเอสไอครั้งนี้ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์สามารถเข้าถึงฐานผู้ชมรวมทั้งหมดได้กว่า 12 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นจำนวนประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ส่วนที่เหลือคือกลุ่มที่ยังรับชมผ่านเสาก้างปลาอยู่ ทั้งนี้ มองว่าในอนาคตกลุ่มดังกล่าวจะเปลี่ยนมารับชมในช่องทางใหม่ๆ ทดแทน โดยเฉพาะช่องทางแบบขายขาด ซึ่งทางทรูวิชั่นส์พร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มฐานผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของช่องคอนเทนต์ และช่องทางการรับชมเพิ่มอีกในอนาคต
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือกับทางพีเอสไอในการเปิดให้บริการกล่องพีเอสไอ ทรูเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทางทรูวิชั่นส์ได้นำเอาช่องคอนเทนต์ไปออกอากาศกับกล่องดังกล่าวกว่า 24 ช่องนั้น ซึ่งทางเทคนิคมองว่าทรูวิชั่นส์ยังสามารถนำเอาช่องคอนเทนต์เหล่านี้ไปออกอากาศกับฐานลูกค้าเดิมของทางพีเอสไอที่ดูผ่านกล่องระบบซีแบนด์ และเคยูแบนด์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ล่าสุดทางทรูวิชั่นส์จึงได้มีการร่วมมือกับพีเอสไออีกครั้งในการส่งช่องรายการไปนำเสนอในฐานลูกค้าของพีเอสไอที่ปัจจุบันกลุ่มจานรับสัญญาณแบบซีแบนด์มีฐานผู้ชมกว่า 10.5 ล้านครัวเรือน และกลุ่มจานรับสัญญานแบบเคยูแบนด์กับกล่องพีเอสไอ โอเค อีก 500,000 กล่อง ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์จะสามารถเข้าถึงฐานผู้ชมคนไทยได้อย่างก้าวกระโดดอีกกว่า 11 ล้านครัวเรือนทันที ทางพีเอสไอยังได้นำเอารีโมตที่มีเทคโนโลยีใหม่กับปุ่ม Smart move มาช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหาช่องรายการจากทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 300 ช่องในปัจจุบันที่รับชมได้ด้วย
เชื่อว่าอนาคตจะส่งผลให้ยอดขายของทางพีเอสไอเพิ่มขึ้นอีกมาก อีกทั้งยังส่งให้ทรูวิชั่นส์จะมีลูกค้าใหม่ที่สนใจเลือกใช้บริการแพกเกจทรูโนวเลจ และทรูไลฟ์พลัสเพิ่มเข้ามาอีกในหลักแสนกล่องแน่ หรือภายในสิ้นปีนี้ทรูวิชั่นส์มั่นใจว่าจะมีฐานสมาชิกรวมกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนได้
อย่างไรก็ตาม การนำช่องรายการไปออกอากาศในช่องทางของพีเอสไอครั้งนี้ ประกอบด้วย ช่องทางรับชมผ่านจานเคยูแบนด์ รับชมได้ 15 ช่อง เช่น True 10, TNN24, True Music, ThaiThai, Truelife TV, True Explore1 เป็นต้น ส่วนช่องทางซีแบนด์รับชมได้ 8 ช่อง เช่น True10, TNN24, Reality Channel, True Exlore1 เป็นต้น ซึ่งได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายองอาจกล่าวต่อว่า การร่วมมือกับพีเอสไอครั้งนี้ส่งผลให้ทรูวิชั่นส์สามารถเข้าถึงฐานผู้ชมรวมทั้งหมดได้กว่า 12 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นจำนวนประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ส่วนที่เหลือคือกลุ่มที่ยังรับชมผ่านเสาก้างปลาอยู่ ทั้งนี้ มองว่าในอนาคตกลุ่มดังกล่าวจะเปลี่ยนมารับชมในช่องทางใหม่ๆ ทดแทน โดยเฉพาะช่องทางแบบขายขาด ซึ่งทางทรูวิชั่นส์พร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการเพิ่มฐานผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของช่องคอนเทนต์ และช่องทางการรับชมเพิ่มอีกในอนาคต
