xs
xsm
sm
md
lg

“ทรูวิชั่นส์” ตีแสกหน้าอากู๋ ผนึก PSI “มากช่อง-ถูกกว่า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ทรูวิชั่นส์บุกหนักขยายฐานแมส จับมือพีเอสไอผุดกล่อง “พีเอสไอ ทรูทีวี” ขายเพียง 890 บาท หวัง 3 แสนกล่องภายในสิ้นปีนี้ พร้อมส่งช่อง “Channel 10” ชู 200 แมตช์จากฟุตบอลดังต่างประเทศดูดคอบอลเพิ่ม ปูพรมสู่พรีเมียร์ลีกฤดูกาลต่อไป มั่นใจมีส่วนแบ่งในตลาดแมสได้ 17% ตามเป้า

นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของทรูวิชั่นส์ที่ต้องการเข้ามาขยายฐานในกลุ่มผู้บริโภคระดับแมสให้มากขึ้นเพราะมองเห็นว่าตลาดกลางถึงล่างนี้มีศักยภาพและเป็นตลาดที่ใหญ่ และปัจจุบันเชื่อว่ายังมีกลุ่มผู้บริโภคที่รับชมผ่านเสาก้างปลาอีกกว่า 10 ล้านครัวเรือนที่กำลังจะเปลี่ยนระบบการรับชมสู่ช่องทางใหม่ๆจึงมองเห็นเป็นโอกาสที่ทรูวิชั่นส์จะมีฐานผู้ชมกลุ่มดังกล่าวได้อีกมาก จากปัจจุบันที่เชื่อว่าทรูวิชั่นส์มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 17% ในกลุ่มตลาดเคเบิลทีวีที่เป็นเพย์ทีวีราคาสมาชิกราว 300 บาท ที่มีฐานสมาชิกอยู่กว่า 2.5 ล้านครัวเรือน รวมกับของทรูวิชั่นส์ ในฐานกลุ่มทรูโนว์เลจอีกราว 3 แสนครัวเรือน รวมแล้วกว่า 3 ล้านครัวเรือน

กลยุทธ์ที่จะนำมาบุกตลาดกลุ่มกลางและล่างจากนี้ คือ 1. การขายขาดกล่องกับแพกเกจทรูไลฟ์พลัส, ฟรีวิว  2. จับมือพันธมิตรแลกเปลี่ยน/ขายคอนเทนต์เพิ่มรายได้ ล่าสุดจึงได้จับมือกับพีเอสไอ ที่ถือเป็นบริษัทคนไทยที่เป็นเจ้าตลาดอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียม เปิดตัวกล่อง “พีเอสไอทรูทีวี” ในราคา 890 บาท และหากติดตั้งพร้อมจานราคา 1,990 บาท จะมีช่องรายการฟรีทูแอร์จากพีเอสไอและทรูวิชั่นส์ให้รับชมรวมกว่า 93 ช่องในปัจจุบันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายรายเดือน จับกลุ่มคนเมืองทั่วประเทศ ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถจำหน่ายได้กว่า 3 แสนกล่อง

“การร่วมมือเปิดตัวกล่องพีเอสไอทรูทีวีครั้งนี้ถือเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี CA (Conditional Access) หรือเรื่องของการเข้าระบบอย่างมีเงื่อนไข ทำให้กล่องดังกล่าวสามารถรับชมช่องรายการจากทรูวิชั่นส์ได้ โดยทางทรูวิชั่นส์จะได้ประโยชน์จากการร่วมมือครั้งนี้ในแง่ของจำนวนฐานผู้ชมที่จะมีเพิ่มขึ้นโดยมีต้นทุนที่ถูกลงทั้งในแง่ของการขายกล่องและการให้บริการหลังการขายที่ทางพีเอสไอจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ส่วนทางพีเอสไอจะได้ประโยชน์ในแง่ของรายได้จากการจำหน่ายกล่อง ขณะเดียวกัน เจ้าของช่องรายการจากทรูวิชั่นส์ก็จะสามารถเพิ่มช่องทางหารายได้โฆษณาได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

สำหรับจำนวนช่องรายการที่ทรูวิชั่นส์นำมาออกอากาศผ่านทางกล่องพีเอสไอทรูทีวีครั้งนี้มีกว่า 29 ช่องที่มาจากทรูวิชั่นส์เอง และจากผู้ผลิตรายการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีกว่า 15 ช่องที่ขายคอนเทนต์ให้กลุ่มเคเบิลทีวีด้วยเช่นกัน เช่น ช่อง Toon Channel, AFMV, Very TV, สยามกีฬาทีวี, ฟุตบอลสยาม ทีวี, สตาร์ซอคเกอร์ TV และ Speed Channel เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับกล่องพีเอสไอทรูทีวี ทางทรูวิชั่นส์ยังได้นำช่อง Channel 10 มาออกอากาศด้วย โดยเป็นช่องใหม่ที่ทางทรูวิชั่นส์เพิ่งเปิดตัวมาได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น ในการนำเสนอรายการไฮไลต์พรีเมียมคอนเทนต์ของทางทรูวิชั่นส์ ทั้งภาพยนตร์, ซีรีส์ และการแข่งขันฟุตบอลดังจากต่างประเทศ ทั้งพรีเมียร์ลีก, ยูโรปา ลีก และยูฟ่าลีก รวมกว่า 200 แมตช์ด้วย เชื่อว่าจะเป็นหัวหอกสำคัญที่จะผลักดันให้มียอดขายกล่องเป็นไปตามเป้าหมาย

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มฐานผู้ชมในกลุ่มที่ชื่นชอบฟุตบอลต่างประเทศได้อีกส่วนหนึ่ง ขณะช่องทางฟรีทีวีที่ทรูวิชั่นส์เข้าไปร่วมนั้นสามารถรับชมได้เพียง 129 แมตช์เท่านั้น คือ พรีเมียร์ลีก 17 แมตช์, แชมเปียนลีก24 แมตช์, ยูโรปาลีก 20 แมตช์ และไทยพรีเมียร์ลีก 68 แมตช์

“ที่สำคัญ การขายกล่องพีเอสไอทรูทีวีอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักของการเพิ่มฐานผู้ชมพรีเมียร์ลีกโดยตรง แต่ในทางอ้อมก็ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมระดับกลางและล่างที่ชื่นชอบฟุตบอลต่างประเทศที่อาจจะตัดสินใจเลือกใช้บริการกับทางทรูวิชั่นส์ต่อไปในอนาคต”

นายองอาจกล่าวต่อว่า สำหรับยอดขายกล่องระดับพรีเมียมตั้งแต่โกลด์แพกเกจขึ้นไปนั้น พบว่าในช่วงโอลิมปิกที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการปรับช่องรายการในแต่ละแพกเกจ และการเพิ่ม 17 ช่อง HD นั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น