ทรูวิชั่นส์คลุมทุกช่องทาง ชูพรีเมียร์ลีกเข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ล่าสุดจับมือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ดูสดในโรงหนัง โวยอดขายกล่องเอชดีขาดตลาด เหตุลูกค้าให้การตอบรับเกินเป้าหมาย ฟากเมเจอร์ฯ พร้อมต่อยอดสร้างรายได้จากจอดิจิตอลเพิ่ม หลังขยายจาก 200 จอสู่ 300 จอในปีหน้า
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินงานที่ต้องการให้คอนเทนต์พรีเมียร์ลีกเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศได้มากยิ่งขึ้น ล่าสุดได้จับมือกับทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ให้คอกีฬาได้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และกีฬาระดับโลก ตลอดปี2555-2556 รวม 5 อีเวนต์ ภายในโรงภาพยนตร์ของทางเมเจอร์ฯ คือ 23 ก.ย. ศึกฟาดแข้งวันแดงเดือด ลิเวอร์พูลกับแมนฯ ยูไนเต็ด, 11 พ.ย. ศึกมวยปล้ำ WWE มวยปล้ำระดับโลก นรกในกรงเหล็ก, 12 ม.ค. 56 ศึกฟาดแข้งวันแดงเดือด แมนฯ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล, 4 ก.พ. 56 อเมริกันฟุตบอล และในเดือน เม.ย. พบกับศึกมวยปล้ำชิงแชมป์โลก
“การเข้าถึงคอบอลพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ถือว่าครอบคลุมฐานผู้ชมทั่วประเทศกว่า 22 ครัวเรือนครบแล้ว จากที่ผ่านมาบริษัทได้นำคอนเทนต์พรีเมียร์ในหลายคู่ไปนำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งฟรีทีวีกับทางช่อง 3 กว่า 17 คู่ เคเบิลทีวีท้องถิ่น, กล่องพีเอสไอทรูทีวี และทางอินเทอร์เน็ตที่สามารถรับชมผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ ไอแพด เป็นต้น ซึ่งในฤดูกาลปีก่อน มีฐานผู้ชมที่เข้าถึงพรีเมียร์ลีกได้เพียง 4 แสนรายเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับเมเจอร์ฯ ครั้งนี้ เบื้องต้นกับอีเวนต์แรกในวันที่ 23 ก.ย.นี้ สามารถรองรับผู้ที่ต้องการเข้าชมในช่องทางโรงภาพยนตร์กว่า 700 ที่นั่ง จากเบื้องต้นที่วางแผนไว้ที่ 1 โรงที่เมเจอร์รัชโยธิน โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมสนุกครั้งนี้ เพียงเข้าไปกดไลก์ในแฟนเพจทั้งของทางทรูวิชั่นส์ ที่ตอนนี้มีอยู่แสนกว่าไลก์ และของทางเมเจอร์ฯ ที่มีกว่า 7 แสนไลก์ พร้อมลงทะเบียนตามกติกาเพื่อร่วมสนุกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และในอีเวนต์ครั้งต่อๆ ไปจะมีการเพิ่มโรงฉายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น โดยรวมแล้วจะต้องลงทุนในการเซตระบบต่างๆ รองรับทั้งโปรเจกต์นี้ประมาณ 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์นอกจากจะได้ประโยชน์ในการสร้างกระแสการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้นแล้ว ในแง่สปอนเซอร์เองก็ยินดีมาก เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นในหลายช่องทางเช่นกัน ที่สำคัญยังส่งผลให้ยอดการขายกล่องเอชดีกับแพกเกจโกลด์ และแพลทินัมไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วย จากปัจจุบันที่นำเข้าแต่ละเดือนเพียง 6-7 หมื่นกล่องนั้น ขณะนี้มีความต้องการอยู่ที่หลักแสนขึ้นไปแล้ว
เมเจอร์ฯ ต่อยอดรายได้จากโรงดิจิตอล
นายเชษฐ์ มังคโลดม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับทรูวิชั่นส์ครั้งนี้ถือเป็นการทดลองทำตลาดสร้างรายได้เพิ่มให้กลุ่มโรงภาพยนตร์ในระบบดิจิตอล จากปีนี้มีกว่า 200 โรงทั่วประเทศ และถึงสิ้นปีหน้าจะขยายเพิ่มเป็น 300 โรง ซึ่งในช่วงการจัดอีเวนต์ครั้งที่ 2 ร่วมกับทรูวิชั่นส์นั้นจะเริ่มมีการขายตั๋วเข้าชมด้วย แต่ต้องดูการตอบรับจากการจัดครั้งแรกก่อน ส่วนราคาบัตรนั้นเฉลี่ยน่าจะมีราคาใกล้เคียงกับราคาตั๋วหนังในราคาปกติ หรือประมาณ 200 บาทต่อที่นั่ง
ทั้งนี้ ในอนาคตนอกจากการนำคอนเทนต์ต่างๆ มาฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว ยังจะมีการต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มอีก เช่น การจัดคอนเสิร์ต สัมมนา หรือถ่ายทอดสดอีเวนต์ใหม่ๆ ในโรงภาพยนตร์ต่อไป โดยรายได้ในส่วนนี้จะเป็นรายได้ที่อยู่ในกลุ่มของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ส่วนรายได้จากมีเดียและอีเวนต์ที่จัดพร้อมการนำเสนอคอนเทนต์นั้นๆ จะอยู่ในส่วนของเมเจอร์แอด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเมเจอร์นั่นเอง
