ทรูวิชั่นส์ปล่อยหมัดเด็ด ส่ง “ซูเปอร์สปอร์ตส์แพ็ก” เพียงเดือนละ 650 บาทเอาใจคอบอล หวังเจาะฐานผู้ชมระดับกลาง มั่นใจถึงสิ้นเดือน ก.ค.นี้ยอดขายไม่ต่ำกว่า 50,000 กล่อง ยันลูกค้าระดับพรีเมียมยังเหนียวแน่น ยอดเติบโตกว่า 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดทำแพกเกจการรับชมพิเศษขึ้นสำหรับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล2012/2013 นี้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มสมาชิกระดับกลางผ่าน “ซูเปอร์สปอร์ตส์แพก” ที่จะให้ผู้ชมได้รับชมแมตช์การแข่งขันที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในระบบที่ดีที่สุดอย่างเอชดี สดทุกสัปดาห์ รวม 190 แมตช์ และรีรันในคู่อื่นๆ อีก 190 แมตช์ รวมเป็น 380 แมตช์ ในราคา เดือนละ 650 บาท ที่มาพร้อมกับช่องรายการคุณภาพครบทุกกลุ่มประเภทรายการสำหรับทุกคนในครอบครัวรวม 74 ช่อง จากทรูโนว์เลจแพกเกจ และช่องกอล์ฟแชนเนล รวมทั้งช่องเอชดีฟรีอีก 3 ช่อง คือ Reality HD, Tnn 24 HD และ HD Show Case
ด้านนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า เดิมที่ผ่านมาทรูโนว์เลจแพกเกจสามารถรับชมแมตช์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้อยู่แล้วราว 40 คู่ แต่การอัปเกรดปรับสู่แพกเกจซูเปอร์สปอร์ตส์แพกครั้งนี้จะสามารถรับชมได้ถึง 190 แมตช์ และรีรันอีก 190 แมตช์ ในช่อง HD รวมแล้ว 380 แมตช์ ขณะที่ค่าบริการเดิมอยู่ที่ 340 บาท บวกค่าเช่าอุปกรณ์อีกเดือนละ 155 บาท รวมเป็น 495 บาท
หากอัปเกรดมาใช้บริการในแพกเกจซูเปอร์สปอร์ตส์แพก จะเหมาจ่ายในราคาเดียวคือ 650 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ เชื่อว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสมาชิกเก่าและใหม่ที่สนใจรับชมคอนเทนต์กีฬา โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก ที่สามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
“บริษัทฯ มั่นใจว่าแพกเกจนี้จะช่วยเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มลูกค้าระดับกลางได้ รวมแล้วในช่วงจัดโปรโมชันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.นี้มั่นใจว่าจะมีผู้ใช้บริการในแพกเกจดังกล่าวกว่า 50,000 กล่อง แบ่งเป็นสมาชิกใหม่ 80% และอัปเกรดจากทรูโนว์เลจแพกเกจ 20%”
ปัจจุบันสมาชิกทรูวิชั่นส์สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้หลายแพกเกจ กล่าวคือ สำหรับลูกค้าแพลทินัมแพกเกจสามารถรับชมได้ครบทั้ง 380 แมตช์ตลอดการแข่งขัน พร้อมรับชมผ่านช่องทรูสปอร์ต HD ได้อีก 2 ช่อง ส่วนโกลด์แพกเกจสามารถรับชมได้ 380 แมตช์การแข่งขันเช่นกัน หากต้องการรับชมแบบ HD สามารถซื้อแพกเกจเพิ่มได้ในราคา 150 บาท ส่วนระดับแพกเกจโกลด์ไลฟ์ ซิลเวอร์ และทรูโนว์เลจ สามารถรับชมได้ 57 แมตช์ ผ่านทางช่องรายการของทรูวิชั่นส์ และอีก 17 แมตช์ทางช่องฟรีทีวี
สำหรับแผนการนำแมตช์การแข่งขันไปออกอากาศทางฟรีทีวีนั้น ขณะนี้คืบหน้าเกือบ 100% แล้ว เบื้องต้นที่เจรจากันไว้นั้นประกอบด้วย คอนเทนต์พรีเมียร์ลีก 17 คู่ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 22 คู่ และยูโรป้าลีก 18-20 คู่ โดยในส่วนของฟรีทีวีนี้ยืนยันว่าจะไม่มีจอดำแน่นอน และทุกรูปแบบของการรับชมทีวี (แพลตฟอร์ม) สามารถรับชมได้ ส่วนกรณีการประมูลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลถัดไปนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมกับใครหรือไม่ร่วมกับใครที่จะเข้าประมูล
นายองอาจกล่าวต่อว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น หากเทียบในกลุ่มพรีเมียมแล้วทรูวิชั่นส์ถือเป็นผู้นำอย่างแท้จริง จากการพัฒนาระบบโครงข่ายและการนำเสนอคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพ ดังนั้น ในฐานกลุ่มนี้บริษัทจะเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ดังจะเห็นการตอบรับที่ดีจากสมาชิก โดยเฉพาะแพลทินัมแพกเกจในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของสมาชิกใหม่กว่า 2 เท่า ส่วนเคเบิลทีวีระดับกลุ่มแมสนั้น ถือเป็นฐานที่ใหญ่ และทรูวิชั่นส์เองก็ได้เข้ามาในตลาดนี้หลายปีแล้ว โดยบริษัทมองว่าทรูวิชั่นส์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับฐานกลุ่มแมส ดังนั้นการเข้ามาในตลาดนี้จึงมีทั้งการร่วมมือกับเคเบิลทีวี ในการขายคอนเทนต์ให้กว่า 19 ช่อง เป็นต้น
“เคเบิลทีวีกลุ่มแมสที่เป็นเพย์ทีวีราคาสมาชิกราว 300 บาทนั้น มองว่ามีฐานสมาชิกอยู่กว่า 2.5 ล้านครัวเรือน รวมกับของทรูวิชั่นส์ กับกลุ่มทรูโนว์เลจอีกราว 5 แสนครัวเรือน รวมแล้วกว่า 3 ล้านครัวเรือน เป็นตลาดที่มีศักยภาพ จากปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีส่วนแบ่งในตลาดนี้ราว 17%”