คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงดาบปรับ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) วันละ 20,000 บาท โทษฐานปล่อยให้จอดำ ไม่สามารถถ่ายทอดฟรีทีวีตามปกติได้ เตือนบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี จำกัด (มหาชน) ต้องเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ขู่มีผลต่อการขอใบอนุญาตประกอบการในอนาคต
หลังจากที่ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติให้บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการรับชมรายการจากโทรทัศน์ภาคปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไขการให้บริการ และการเผยแพร่โฆษณาของบริษัทที่แสดงไว้ต่อสาธารณะ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ทางทรูวิชั่นส์ ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ในขณะที่มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม
ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2555 ที่สำนักงานการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เวลา 13.30 น.พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกสทช.ได้ออกมาแถลงการความคืบหน้าล่าสุด ว่า ทางบริษัท ทรูวิชั่นส์ ได้ทำหนังสือถึงกสทช.ให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งทางบอร์ดกระจายเสียงได้ทบทวนแล้ว เห็นสมควรว่า ให้ยึดตามเดิม และมีมติให้ ปรับ บ.ทรูวิชั่นส์ โทษฐานขัดคำสั่งทางปกครอง ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีไม่สามารถเผยแพร่ฟรีทีวีตามที่ได้ระบุไว้ เป็นจำนวนเงินสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน โดยนับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.2555 เป็นต้นไป และเปิดให้ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย สามารถร้องเรียนเข้ามาทางคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้พิจารณาโทษเพิ่มเติมได้
ส่วนทางฝั่งของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี จำกัด (มหาชน) ผู้ถือครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ยูโร 2012 นั้น พ.อ.ดร.นที ได้กล่าวว่า “ในส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันยังไม่ได้รับใบอนุญาติจากทาง กสทช.ก็ตาม แต่ในกรณีนี้จะถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาการออกใบอนุญาตในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการโทรทัศน์ที่ดีควรที่จะเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก”
“โดยในขณะนี้ทาง กสทช.ได้กำลังเร่งร่างกฎระเบียบเพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตในอนาคต เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับผลประโยชน์สูงสุด โทรทัศน์แบบฟรีทีวีต้องเป็นการให้บริการทั่วไปอย่างทั่วถึง ซึ่งถ้าผู้ใดได้คอนเทนต์ หรือลิขสิทธิ์รายการใดมา แล้วต้องการที่จะเผยแพร่ในฟรีทีวี ต้องตระหนักว่า ประชาชนต้องสามารถรับชมได้ทุกช่องทาง ซึ่งตอนนี้คาดว่า ร่างกฎหมายและหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตดังกล่าวจะแล้วเสร็จในประมาณเดือนสิงหาคม และพร้อมจะประกาศใช้ทันที” รองประธาน กสทช.กล่าว
พ.อ.ดร.นที ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “ทาง กสทช.ได้ทำเต็มที่แล้วตามอำนาจที่มี เพื่อรักษาผลประโยชน์ที่ประชาชนควรได้รับ โดยได้ออกคำสั่งไปแล้วในทุกภาคส่วน และจากนี้จะไม่เข้าเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อีก ที่เหลือเป็นเรื่องของบริษัทเอกชนที่ต้องเจรจากันเอง”
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีมติใน 3 ข้อ ได้แก่ 1.เห็นควรมอบอำนาจให้สำนักงาน กสทช. (เลขาธิการ กสทช.) พิจารณาใช้มาตรการปรับทางปกครองต่อ ทรูฯ ในฐานะผู้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยให้มีการตักเตือนก่อน 2.กำหนดแนวทางการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ในอนาคตว่า ต้องมีปัจจัยที่คำนึงถึงพฤติการณ์ หรือพฤติกรรมที่ผ่านมาของของผู้ขอรับใบอนุญาตที่มีผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด และผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นสำคัญ โดยให้สำนักงาน กสทช.เร่งรัดดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขการอนุญาตดังกล่าวโดยเร็ว และ 3.มอบหมายให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พิจารณากรณีข้อเท็จจริงที่เกิดจากการที่ผู้บริโภคไม่สามารถรับชมรายการถ่ายทอดสดบอลยูโร 2012 ภายใต้กรอบขอบเขต หน้าที่ ตามกฎหมายที่ กสทช.มีอำนาจ