คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกแถลงการณ์ยืนยันสิทธิ์ของผู้บริโภค ควรได้รับชมฟรีทีวีผ่านทุกช่องทาง พร้อมชี้ว่า ทรูวิชั่นส์ ควรต้องเร่งหารือ เพื่อหาทางออกเพื่อไม่ทำให้สมาชิกต้องรับชมจอดำในช่วงยูโร 2012 พร้อมเตรียมเร่งมือร่างหลักเกณฑ์เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างหากเกิดกรณีพิพาท “ทรูวิชั่นส์ vs แกรมมี” ขึ้นอีกในอนาคต
เมื่อเวลา 18.30 น. พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองประธาน กสทช.) ได้ออกแถลงการณ์ หลังเกิดกรณีพิพาท แกรมมี่ เจ้าของลิขลิทธิ์ถ่ายทอดสดยูโร 2012 กับเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ของไทย อย่าง ทรูวิชั่นส์ ที่ก่อนหน้านี้ แกรมมี่ ยืนยันว่า แม้ยูโร 2012 จะถ่ายทอดผ่านฟรีทีวีช่อง 3, 5 และ 9 ทว่า ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จำเป็นต้องบล็อกสัญญาผู้ชมที่ชมผ่านทางกล่องทรูวิชั่นส์ รวมถึงเคเบิลทีวีบางเจ้า
โดยในแถลงการณ์ 3 ข้อระบุว่า
1.เห็นควรให้โทรทัศน์ภาคปกติดำเนินการออกอากาศโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนได้รับชมรายการโดยปกติตามกฎหมาย
2.เห็นควรให้บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการเพื่อรับชมรายการจากโทรทัศน์ภาคปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไขการให้บริการ และการเผยแพร่โฆษณาของบริษัทที่แสดงไว้ต่อสาธารณะ
3.ในขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการประกอบกิจการให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ดังนั้น เพื่อป้องกันสภาพปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้อีกในอนาคต จึงเห็นควรเร่งรัดให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวและเสนอต่อ กสท โดยเร็ว
ซึ่งภายหลังแถลงการณ์ดังกล่าว รองประธาน กสทช.ได้เผยเพิ่มเติมผ่าน MGR SPORT ว่า “เราจำเป็นต้องมองไปที่ผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยหากทรูวิชั่นส์เคยโฆษณาว่า จะดำเนินการออกอากาศฟรีทีวีไปยังสมาชิก เมื่อถึงเวลาก็จำเป็นต้องออกอากาศตามปกติ แม้ว่าฝั่งแกรมมี่จะยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทรูวิชั่นส์ที่จะจัดการแก้ปัญหานี้ เพื่อสมาชิกของตัวเอง”
ส่วนบทสรุปในกรณีพิพาทนี้ พ.อ.ดร.นที เพิ่มเติมว่า “ในขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการประกอบกิจการให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ดังนั้น เพื่อป้องกันสภาพปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้อีกในอนาคต”
